มุมมอง
การวิ่งนอกจากจะเป็นกีฬาที่สามารถทำได้ง่ายแล้ว ยังเป็นกีฬาที่เจ็บตัวง่ายเช่นกันค่ะ โดยเฉพาะถ้าไม่วอร์มร่างกายให้พร้อมก่อน อาการปวดหัวเข่ามาเยือนคุณแน่ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้วันนี้เราจึงมีวิธีป้องกันมาบอกคุณผู้อ่านกันค่ะ
ยืดกล้ามเนื้อรอบเข่าและข้อเท้าก่อนค้างไว้ประมาณ 10-15 วินาทีต่อครั้ง ประมาณ 5-10 ครั้ง
วอร์มร่างกายด้วยการเดินหรือวิ่งเหยาะๆ เพื่อให้มีการปรับตัวของกล้ามเนื้อ ระบบไหลเวียนโลหิตและระบบการหายใจ
เลือกรองเท้าวิ่งที่มีพื้นกระแทกที่เพียงพอและมีความกระชับพอดีเท้า ถ้าวิ่งเพื่อการออกกำลังกายควรเลือกซื้อรองเท้าแบบ Cross training
ตรวจดูเท้าว่าผิดปกติหรือไม่ ถ้าพบอาการผิดปกติเช่น เมื่อวิ่งไปนานๆ ปฏิกิริยาจากพื้นกระทำต่อเท้า และข้อเข่าอย่างผิดปกติทำให้เกิดอาการปวดเข่า ควรไปพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาและทำการรักษาต่อไป
วิ่งในที่ที่มีพื้นเสมอกัน ไม่ควรวิ่งบริเวณที่พื้นลาดเอียง หรือบริเวณที่มีการหักเลี้ยวอย่างฉับพลัน เพราะอาจจะทำให้เส้นพลิกเข่ามีปัญหาได้
วิ่งแต่พอดีไม่ต้องก้าวยาวมาก หรือยกสูงมากเกินไป เพราะจะทำให้เข่างอมากเกินความจำเป็น ส่วนแขนก็งอเพียงเล็กน้อยพอ
ทิ้งน้ำหนักในการวิ่งไปบนส้นเท้า เพราะการวิ่งทิ้งน้ำหนักลงปลายเท้านานๆ จะทำให้เกิดแรงกระชากของพังผืดฝ่าเท้า ปวดกล้ามเนื้อน่อง และลามมาถึงข้อเข่านั่นเอง
ถ้าใครมีปัญหาเกี่ยวกับข้อเข่าอยู่แล้ว ไม่ควรวิ่งลงเนิน เพราะการวิ่งลงเนินต้องใช้พลังของข้อเข่าเป็นอย่างมากนั่นเอง
ระยะเวลาในการวิ่งต้องเหมาะสมกับตัวเอง พอวิ่งเข้าที่เข้าทางแล้วค่อยเพิ่มระยะให้กับตัวเองต่อไป
เมื่อใกล้จะหยุดวิ่งควรผ่อนแรงให้ลดลงเรื่อยๆ หรืออาจจะเดินต่อเพื่อให้ร่างกายได้ชะเอากรดแลคติกออกไปจากกล้ามเนื้อ เพื่อลดการปวดกล้ามเนื้อหลังวิ่งค่ะ
หมั่นออกกำลังกายกล้ามเนื้อต้นขา โดยการเหยียดเข่าตรงแล้วเกร็งค้างไว้ 5 วินาทีต่อครั้ง ทำประมาณ 10-20 ครั้งต่อวัน เพื่อช่วยในการพัฒนากล้ามเนื้อที่ช่วยรั้งกระดูกสะบ้าเข้าด้านในซึ่งสามารถช่วยลดปัญหาได้ในระยะยาวค่ะ
สิ่งสำคัญของการออกกำลังกาย ที่คุณควรคำนึงถึงอยู่เสมอเลยก็คืออย่าออกกำลังกายหักโหมจนเกินไป ทำอะไรแต่พอดีอย่าฝืนจนร่างกายบาดเจ็บนะคะ
ขอขอบคุณ ที่มา : นิตยสารเรื่องผู้หญิง