
มุมมอง

มันฝรั่ง คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักนะคะ นอกจากจะนำมาใส่ในอาหารคาวแล้ว ที่เรารู้จักกันดีก็นำมาทำเป็นขนมขบเคี้ยวต่างๆ แต่คุณๆ รู้หรือไม่ค่ะว่า ในมันฝรั่งนั้น มีอันตรายอยู่ไม่น้อย แล้วอันตรายเหล่านั้นจะมีอะไรบ้าง ส่งผลเสียต่อร่างกายของเรามากน้อยแค่ไหน และควรหลีกเลี่ยงอย่างไรนั้น วันนี้เรามีข้อมูลมานำเสนอค่ะ
เรื่องของมันฝรั่งเป็นที่นิยมกันมากและได้นำไปเล่าสู่กันฟังใน Food News เพราะเนื่องจากว่ามันฝรั่งเป็นอาหารที่คนไทยเราชอบกินกันเป็นอย่างมากในสมัยนี้ที่ชอบกินมากๆ คือเด็กและกลุ่มวัยรุ่น จะชอบบริโภคอาหารฟาสต์ฟู๊ดและขนมต่างๆ ที่ได้ทำมาจากมันฝรั่งแล้วรู้หรือเปล่าว่ามันฝรั่งที่เรากำลังกินอยู่นั้นมีอันตรายอะไรซ่อนอยู่
ได้มีการค้นพบว่ามันฝรั่งนั้นมีสารพิษร้ายแรงที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ ซึ่งสารพิษที่พบในหัวมันฝรั่งนั้นได้แก่ สารไกลโคแอลคาลอยด์ (glycoalkaloids) นั้นจะไปยับยั้งการทำงานของ เอนไซม์คอลีนเอสเทอเรส (Cholinesterase) ซึ่งจะก่อให้เกิดอาการ ปวดหัว อาเจียน ท้องเสีย หรือทำให้ไข้ขึ้นเลยก็เป็นได้

สารในมันฝรั่งนั้นจะมีอยู่ประมาณ 0.01 – 0.1% มีน้ำหนักแห้ง ที่สำคัญเลยก็คือ ความร้อนนั้นจะไม่สามารถทำลายสารนี้ได้ งั้นก็แสดงว่าหากมันฝรั่งได้ผ่านความร้อนจากการทอด การต้ม แล้วก็จะไม่ส่งผลกระทบอันตรายใดๆ ต่อเราได้เลย แต่การกินมันฝรั่งปกติในชีวิตประจำวันนั้นจะไม่เกิดโทษจากสารชนิดนี้
และนอกจากนี้แล้วมันฝรั่งยังมีการยับยั้งและมีโปรตีนอยู่ซึ่งได้แก่ สารที่ยับยั้งการทำงานของทริปซิน และการทำงานของไคโมทริปซิน เป็นต้น ซึ่งสารดังกล่าวนี้จะถูกทำลายเมื่อได้พบกับความร้อน จึงทำให้ไม่เป็นอันตรายใดๆ ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นเวลาที่เรารับประทานมันฝรั่งนั้นเราควรจะต้ม ทอด ให้สุกก่อนเพื่อเป็นการละลายสารพิษ และเรายังสารมารถกินได้โดยไม่ต้องกังวลใดๆ ทั้งสิ้น
ขอบคุณ ที่มา : zabzaa