
มุมมอง

นอกจากจะเป็นอาหารที่มีคุณค่าสูงแล้ว ฟักทองยังเป็นยารักษาโรคมาตั้งแต่สมัยก่อนด้วย คนรุ่นใหม่อย่างเราน่าจะลองกินฟักทองเป็นยากันบ้าง เพราะกินแล้วไม่มีสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อไตเหมือนยาสมัยใหม่ทั่วไป วิธีทำก็แสนง่าย
1. เอาเนื้อฟักทองครึ่งกิโลกรัมมานึ่งให้สุก แล้วราดด้วยน้ำผึ้ง กินวันละ 2 ครั้งเช้าเย็น ติดต่อกันประมาณ 5-7 วัน จะช่วยบรรเทาอาการหอบหืดได้นาน 6 เดือน ถึง 2 ปี
2. ต้มฟักทอง 250 กรัมกับน้ำสะอาด แล้วกรองน้ำให้สะอาดเอามาดื่ม จะช่วยรักษาโรคเบาหวานได้
3. นำดอกฟักทองกับตับหมูไปต้มรวมกัน กินเป็นกับข้าว สามารถรักษาโรคตาบอดกลางคืนได้

4. แกะเปลือกเมล็ดฟักทองออกให้เหลือแต่เนื้อใน จากนั้นนำไปคั่วแล้วบดเป็นผง ผสมน้ำอุ่นดื่มครั้งละ 30 กรัม ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมให้คุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูก
5. แกะเปลือกเมล็ดฟักทองออกให้เหลือแต่เนื้อใน กินดิบๆ ติดต่อกัน 3 วันจะช่วยถ่ายพยาธิไส้เดือนได้
6. คั่วเมล็ดฟักทอง 150 กรัมให้สุก กินเนื้อในเพื่อขับพยาธิตัวตืด
ขอขอบคุณ ที่มา : spicy