นอกจากจะเป็นอาหารที่มีคุณค่าสูงแล้ว ฟักทองยังเป็นยารักษาโรคมาตั้งแต่สมัยก่อนด้วย คนรุ่นใหม่อย่างเราน่าจะลองกินฟักทองเป็นยากันบ้าง

วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ มาฝากกันอีกแล้วค่ะเป็นเคล็ดลับเกี่ยวกับราชรถของซินเดอเรลล่าอย่างเจ้าฟักทองผลโตๆ กันเลยค่า

แค่ความสวยฟักทองก็กินขาดผักอื่นไปหลายช่วงตัว แต่ผักเลอค่าอย่างฟักทองไม่ได้สวยแต่รูป จูบยังหอมชื่นใจอีกด้วย

ฟักทองยังเป็นอาหารเพื่อสุขภาพของผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอีกด้วย เพราะฟักทองมีกากใยที่สูงมาก มีแคลอรีและไขมันน้อย

อาหารบางอย่างแคลอรี่น้อยก็จริงแต่คุณค่าอาหารก็น้อยตามไปด้วยซึ่งจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ไม่เพียงพอ ทำให้เป็นโรคขาดสารอาหารได้ง่าย

วิธีทำ แกงคั่วเผ็ดฟักทองกับไก่1.ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ นำไปตั้งไฟ นำเครื่องแกงเผ็ดและกะปิมาผสมให้เข้ากัน ใส่ลงในหม้อคนจนละลายหมด รอจนเดือด2.เมื่อน้ำเดือดใส่เนื้อไก่หั่นชิ้นลงไป เมื่อน้ำเดือดอีกครั้งจึงใส่ฟักทอง ต้มพอสุก

วิธีทำ แกงบวดฟักทองนมอัลมอนด์1. นำใส่นมอัลมอนด์ ฟักทอง และใบเตยลงไปในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟกลาง ต้มจนเนื้อฟักทองสุก2. จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำตาลโตนดและเกลือป่น คนให้ละลาย ปิดไฟ พร้อมเสิร์ฟ

วิธีทำ แกงบวดฟักทองนมสด1. แช่ฟักทองลงในน้ำปูนใสทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที2. เทนมสดลงในหม้อ ใส่ใบเตย น้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บ และเกลือป่น ต้มด้วยไฟปานกลางจนเดือด3. ใส่ฟักทองลงต้มจนฟักทองสุก และนุ่ม หรือประมาณ 20 นาที ยกลงจากเตา

วิธีทำ ขนมสังขยาฟักทอง1.นำฟักทองมาตัดออกเป็นสี่เหลี่ยมบริเวณหัวขั้วจากนั้นจึงขวักเมล็ดข้างในออก จนกลวงเป็นช่องภายใน จากนั้นจึงนำไปน้ำปูนใสประมาณ 8 - 10 นาที แล้วจึงนำออกมาสะเด็ดน้ำ (เคล็ดลับ : แช่น้ำปูนใสเพื่อไม่ให้ฟักทองแตกเวลานึ่ง)