สุดยอดสมาร์ตโฟนแห่งปี2021 – ปี 2564 ที่กำลังจะผ่านพ้นไป นั้นนับเป็นปีที่อุตสาหกรรม สมาร์ตโฟนประสบกับความผันผวนอย่างหนักจากการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อภาวะขาดแคลนชิ้นส่วนอะไหล่ในการผลิต ค่าแรงและค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น ทำให้สมาร์ตโฟนโดยรวมนั้นมีราคาขยับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะในระดับตลาดพรีเมียม อย่างไรก็ตาม ความต้องการของตลาดผู้บริโภคนั้นยังคงมีอยู่ท่วมท้น และทางเว็บไซต์เดอะเวิร์จนำรายชื่อสุดยอดสมาร์ตโฟน 9 รุ่นของปีนี้มาแสดงไว้เป็นไกด์แนะนำสำหรับผู้ที่อาจกำลังมองหาสมาร์ตโฟนที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง หรือบุคคลอันเป็นที่รัก ดังนี้
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
ไอโฟน 13 จากค่ายแอปเปิ้ล ถือเป็นรุ่นที่ลงตัวที่สุดจากทั้งหมด 4 รุ่น ที่ทางแอปเปิ้ลเปิดตัวมาในปีนี้ ทั้งในแง่ของราคา ขนาดเพื่อการพกพา และฟีเจอร์ต่างๆ ที่มาพร้อมกับชิพประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุด แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้น พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน (ROM) เริ่มต้นที่ 128 กิกะไบต์ (GB) และใช้โมดูลกล้องหลังแบบเดียวกันกับในไอโฟน 12 โปร แม็กซ์
แม้ไอโฟน 13 ภายนอกจะมีงานออกแบบที่เหมือนกันกับไอโฟนรุ่นก่อนหน้าก็ตาม (หนาและหนักขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยจึงไม่สามารถนำเคสเก่าของไอโฟน 12 มาใช้ได้) แต่ก็มีหน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ที่มีความสว่างมากขึ้น กล้องเซลฟี่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (MP) พร้อมฟีเจอร์ระดับพรีเมียมเดิมติดมาครบครันอย่างเทคโนโลยีชาร์จไร้สายแบบ MagSafe มาตรฐานกันน้ำและฝุ่นเข้าเครื่องแบบ IP68 รวมทั้งรองรับคลื่นสื่อสารยุคที่ห้า (5G) ตลอดจนมีสีให้เลือกถึง 5 แบบ
ชิพประมวลผลใหม่อย่าง A15 Bionic นั้นเป็นชิพที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดในสมาร์ตโฟนชั่วโมงนี้ หมายความว่าน่าจะสามารถรองรับอนาคตได้อีกหลายปี ยังไม่นับฟีเจอร์อีกมากมายเรื่องการถ่ายภาพ ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะกล้องอัลตราไวด์ และการถ่ายภาพในที่มืด แต่แนะนำว่าหากสนใจควรซื้อรุ่นที่มี ROM สูงกว่า 128 GB จะรองรับอนาคตได้ดีกว่า
เหตุผลหลักของการมีตัวตนอยู่ของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้คือ ขนาด พกพาของมัน ซึ่งทางแอปเปิ้ลนั้นทำออกมาได้ยอดเยี่ยม เพราะนอกเหนือไปจากขนาดจอภาพ 5.4 นิ้วแล้ว แทบไม่มีสิ่งใดที่ย่อหย่อนไปกว่าไอโฟน 13 ทำให้ไอโฟน 13 มินิ ได้ฉายาว่า เล็กพริกขี้หนู และได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญว่าเป็นมือถือขนาดเล็กที่ทรงพลังและดีที่สุดในปีนี้
หน้าจอแสดงผลขนาด 5.4 นิ้วนั้นหากเทียบกับสมาร์ตโฟนทั่วไปในปัจจุบันอาจแลดูน่าเป็นกังวล แต่หากเป็นผู้ที่อัพเกรดมาจากไอโฟน 6/7/8 แล้วล่ะก็ จะรู้สึกว่าจอค่อนข้างกว้างเลยทีเดียว รวมทั้งขุมพลังของไอโฟน 13 มินิ ที่เป็นแบบเดียวกันกับไอโฟน 13 เช่นเดียวกันกับกล้องถ่ายภาพ งานออกแบบภายนอก และฟีเจอร์อื่นๆ รวมทั้งราคาถูกกว่าด้วย
ทว่าหากเป็นผู้ที่กำลังมองหาคุณสมบัติเหล่านี้แต่เป็นสมาร์ตโฟนแอนดรอยด์ ทางหลากและหลายแนะนำเป็น Asus Zenfone 8 แทน แม้จะมีหน้าจอใหญ่ขึ้นเล็กน้อยเป็น 5.9 นิ้ว แต่มีคุณสมบัติอื่นเทียบได้กับ ไอโฟน 13 มินิ ทั้งในแง่ของชิพประมวลผล หน้าจอ และขนาดพกพา
หันมาดูทางระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์จากกูเกิ้ล ประเทศสหรัฐ แน่นอนว่า สมาร์ตโฟนแอนดรอยด์ที่คุ้มค่าที่สุดนั้นหนีไม่พ้นมือถือของค่ายนี้เองในตระกูลพิกเซลอย่าง กูเกิ้ล พิกเซล 6 ซึ่งเทียบชั้นได้กับ ไอโฟน 13 โปร จากแอปเปิ้ล และกาแล็กซี เอส 21 อัลตรา จากซัมซุง ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพโดยรวม ระยะเวลาการใช้งาน แต่ข้อดีกว่าคือราคาถูกกว่านั่นเอง
พิกเซล 6 นั้นแตกต่างจากพิกเซล 6 โปร ที่หน้าจอแสดงผลแบบ OLED แบนราบขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด 1080p มีสีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ แดง หรือเขียว แบบทูโทน (สีดำก็มีแต่อาจจะหายากหน่อย)
สมาร์ตโฟนรุ่นนี้ไม่น้อยหน้าไอโฟนจากทางแอปเปิ้ล เพราะมาพร้อมกับชิพประมวลผลรุ่นใหม่เช่นกัน โดยเป็นชิพรุ่นแรกที่ทาง กูเกิ้ลหันมาพัฒนาเอง คือ เท็นเซอร์ (Tensor) ซึ่งมีประสิทธิภาพเทียบได้รุ่นราวคราวเดียวกับ Snapdragon 888 ของค่ายควอลคอมม์ แต่มีจุดเด่นกว่าเรื่องการประมวลผลด้าน Machine Learning และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่สามารถเรียนรู้และทำงานได้รวดเร็วกว่า อาทิ Magic Eraser ซึ่งผู้ใช้สามารถลบภาพบุคคลที่ไม่พึงประสงค์ออกจากภาพที่ถ่ายไว้ได้ หรือถ่ายภาพที่ให้สีผิวของบุคคลในภาพนั้นออกมาสมจริง รวมทั้งให้ Google Assistance รับโทรศัพท์และพูดคุยแทนที่ระบบอัตโนมัติก็ได้
นอกจากนี้ พิกเซล 6 ยังรันโอเอสรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง แอนดรอยด์ 12 ที่เป็นการเปลี่ยนโฉมครั้งใหญ่ในวงการ แอนดรอยด์ พร้อมกล้องถ่ายภาพแบบเลนส์คู่ความละเอียด 50 และ 12MP (เลนส์ไวด์ และอัลตราไวด์) คุณภาพเทียบได้กับไอโฟน รวมถึงแบตฯ ขนาด 4,614 มิลลิแอมป์ต่อชั่วโมง (mAh) ที่ทำให้ใช้งานได้นานถึง 2 วัน ตลอดจนฟีเจอร์ระดับพรีเมียมอื่นครบครัน อาทิ IP68 และชาร์จไร้สาย (Qi) ทั้งหมดในราคาที่ เข้าถึงได้ง่ายกว่าค่ายมือถือแอนดรอยด์ทั้งหมดในตลาด จึงทำให้พิกเซล 6 เป็นมือถือแอนดรอยด์ ที่คุ้มค่าที่สุดของปีนี้
ไม่ใช่ทุกคนที่เวลาจะซื้อสมาร์ตโฟนแล้วต้องเป็นระดับพรีเมียมเสมอไป แต่มองเรื่องราคาที่เข้าถึงง่ายและความคุ้มค่าเป็นหลัก ซึ่งสมาร์ตโฟนที่โดดเด่นที่สุดในคุณสมบัติเหล่านี้หนีไม่พ้น ทีซีแอล 20 เอส จากนครฮุ่ยโจว มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ซึ่งเติบโตมาจากการเป็นรัฐวิสาหกิจของจีนเมื่อ 40 ปีก่อน ในฐานะผู้พัฒนาและ ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า
หนึ่งในความเชี่ยวชาญของทีซีแอลนั้นเป็นการผลิตจอภาพ และโทรทัศน์ (เป็นหนึ่งในเอาต์ซอสของซัมซุง) แน่นอนว่าทางทีซีแอลจึงนำความสามารถด้านนี้มาใส่ไว้ในสมาร์ตโฟนของ ค่ายด้วย ส่งผลให้ทีซีแอล 20 เอส นั้นมีจอภาพขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1080p ที่สวยงามสะดุดตาอย่างมากในมือถือราคาไม่ถึงหมื่นบาท (ราคาประมาณ 7 พันบาท)
นอกจากนี้ ยังมีการออกแบบที่ล้ำหน้าอย่างเทคโนโลยีพื้นผิว ต่อต้านรอยนิ้วมือที่ด้านหลัง และลวดลายแบบ micron-sized prismatic crystals ที่ทำให้พื้นผิวเปล่งประกายเมื่อต้องแสง
ส่วนสเป๊กนั้นใช้ชิพ Snapdragon 665 จากควอลคอมม์ แรม 4 GB และ ROM 128 GB สนับสนุน microSD card และช่องหูฟัง พร้อมแบตฯ ขนาด 5,000 mAh ใช้ได้นาน 2 วัน และกล้องหลังความละเอียด 64MP เรียกว่าชนะเลิศมากกับราคาเท่านี้
หากเป็นผู้ที่กำลังสนใจสมาร์ตโฟนแบบพับได้ แต่ยังไม่กล้าเพราะต้องการรอให้เทคโนโลยีเหล่านี้เข้าที่เข้าทางเสียก่อน ก็ไม่ต้องรออีกแล้ว เพราะซัมซุง กาแล็กซี ซี โฟลด์ 3 นั้นเป็นสมาร์ตโฟนพับได้ที่ทางซัมซุงนำองค์ความรู้ที่ได้มาจากสองรุ่นก่อนมาปรับปรุงใหม่จนเรียกได้ว่าเข้าใกล้ความสมบูรณ์แบบมากที่สุด
สมาร์ตโฟนรุ่นนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ความสามารถในการกางออกเพื่อแปลงร่างเป็นแท็บเล็ตขนาด 7.6 นิ้ว ทำให้ประสบการณ์การอ่านเอกสาร ชมภาพยนตร์ และเล่นเกมนั้นถูกยกระดับเหนือสมาร์ตโฟน ขณะที่เมื่อพับเก็บนั้นก็สามารถใช้งานเป็นสมาร์ตโฟนทั่วไปได้ด้วยจอภาพขนาด 6.2 นิ้ว พร้อมความคงทนแข็งแรง และมาตรฐานกันน้ำแบบ IPX8
จันท์เกษม รุณภัย
ภาพที่
