
มุมมอง

การคุมกำเนิด กับประจำเดือนหลังคลอด
ประจำเดือน เป็นสิ่งหนึ่งที่มีเฉพาะในผู้หญิงเพศแม่อย่างเรา จะมีกันทุกเดือน ตั้งแต่เริ่มเข้าสู่วัยรุ่น และจะหยุดไประยะหนึ่ง ตอนที่ตั้งครรภ์ เป็นว่าที่คุณแม่ และ ยาวต่อไปหลังคลอดลูกแล้วอีกประมาณ 7 เดือน คุณแม่ทั้งหลายจะได้สบายตัว ไม่ต้องกังวลมาดูแลเรื่องผ้าอนามัย เรื่องการเปรอะเปื้อนในช่วงที่ต้องเลี้ยงลูกอ่อน อย่างวุ่นวายเหนื่อยเพลีย
การที่คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาจทำให้ประจำเดือนหลังคลอดมาช้า เพราะการที่ให้ลูกดูดนมแม่ จะทำให้มีฮอร์โมนชื่อ โปรแลคติน (Prolactin) ซึ่งหลั่งออกมาจากต่อมใต้สมอง ไปทำให้ฮอร์โมนต่างๆ ที่เกี่ยวกับการมีประจำเดือนไม่สมดุล ส่งผลให้ไม่มีไข่ตก ทำให้อาจจะไม่มีประจำเดือน ซึ่งก็เป็นการคุมกำเนิดได้วิธีหนึ่ง เพียงแต่ว่าประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดอาจจะไม่ดีเท่าวิธีอื่นๆ ที่ใช้กันทั่วไป เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกำเนิด ถุงยางอนามัย การฝังเข็มคุมกำเนิด

เพราะฉะนั้น ถึงแม้ประจำเดือนยังไม่มาหลังคลอด ก็ควรคุมกำเนิด เมื่อครบ 6 สัปดาห์หลังคลอด เพื่อป้องกันการเกิดท้องทับ สำหรับคุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาจจะต้องปรึกษาคุณหมอเพื่อหารวิธีคุมกำเนิดที่ไม่มีผลเสียต่อการให้นมลูกน้อย คุณแม่ไม่ควรหยุดเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เร็วเกินไปเพราะในน้ำนมแม่มีประโยชน์กับลูกมากมาย
เพราะฉะนั้นเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์หลังคลอดเร็วเกินไป อย่าลืมเลือกคุมกำเนิดวิธีใดวิธีหนึ่งที่เหมาะสมหลังคลอดเดือนครึ่ง ตามที่แพทย์แนะนำ เพราะถึงแม้ประจำเดือนยังไม่มา คุณแม่ลูกอ่อนก็สามารถตั้งครรภ์โดยไม่ทันตั้งตัวได้ นะคะ
ขอขอบคุณ ที่มา : ModernMom
ภาพจาก mamaexpert.com