ค่านิยมผิวขาวส่งผลโฆษณาชวนเชื่ออวดอ้างสรรพคุณที่เกินจริง ทำให้ผิวขาวใสในระยะเวลาอันรวดเร็ว โดยไม่คำนึงถึงผลดีผลเสียที่จะตามมาภายหลังจากการใช้ สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ แนะก่อนใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิวพรรณควรศึกษารายละเอียดทุกครั้ง
นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์และโฆษกกรมการแพทย์ กล่าวว่า กระแสนิยม ผิวขาว หน้าใส ทำให้มีผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผิวหลากหลายยี่ห้อจำหน่ายตามท้องตลาดเป็นจำนวนมาก ทั้งครีม ทาหน้า ครีมทาผิวกาย สบู่ ฯลฯ ควรศึกษารายละเอียดก่อนนำมาใช้ เพราะอาจทำร้ายผิวโดยไม่รู้ตัว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผิวต่างๆ ควรศึกษาส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ว่ามีส่วนผสมที่เป็นอันตรายกับผิวหรือไม่ เช่น สารปรอท สารไฮโดรควิโนน สารสเตียรอยด์ เป็นต้น
แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สารสเตียรอยด์เป็นสารที่สังเคราะห์ขึ้น เพื่อใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์เท่านั้น และกฎหมายกำหนดให้เป็นยาควบคุมพิเศษ ใช้เพื่อบรรเทาอาการอักเสบและกดภูมิคุ้มกันแพ้ในโรคต่าง ๆ เช่น โรคภูมิแพ้อากาศ หอบหืด ผื่นแพ้ ผิวหนังอักเสบ เป็นต้น ไม่มีข้อบ่งชี้ใดๆ ในการนำสารสเตียรอยด์มาใช้เพื่อความงาม ปรับผิวให้ กระจ่างใส สารสเตียรอยด์หากนำไปใช้อย่างไม่ถูกต้องและไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของแพทย์อาจเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ เช่น สิวสเตียรอยด์ เพิ่มโอกาสการติดเชื้อรา แบคทีเรีย และไวรัส เกิดภาวะรุนแรงที่ผิวหนัง นอกจากนี้อาจทำให้ผิวบาง ผิวสีไม่สม่ำเสมอ และเห็นเส้นเลือดชัดเจน ผิวหนังแตกลายงา
ดังนั้น ก่อนเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ปรับ ผิวขาวต่างๆ ต้องตรวจสอบให้ดีว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นได้รับการจดแจ้ง ขึ้นทะเบียนกับ อย. ถูกต้องหรือไม่ เพื่อสุขภาพผิวที่ดีและปลอดภัย
ที่มา ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมการแพทย์ ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
