มุมมอง
ในร้านเสริมสวยไม่ได้มีแต่ผมทรงใหม่ที่รอคุณอยู่ แต่ยังมีแขกไม่ได้รับเชิญรอเกาะหลังคุณกลับบ้านด้วย ที่สำคัญงานนี้น้ำมนต์กี่ตุ่มก็ไล่เขาไปไม่ได้ เหอๆๆๆ (เสียงหัวเราะโรคจิตสุดๆ)
เชื้อแบคทีเรีย มักจะซ่องสุมกำลังกันอยู่ในของที่ต้องใช้ร่วมกันหลายๆ คน อย่างหวี แปรง ไดร์เป่าผม และอีกสารพัดอุปกรณ์ที่ช่างเขาเอามาทำผมให้คุณนั่นล่ะ
เชื้อรา ถ้าลูกค้าคนหนึ่งมีเชื้อรา หลังจากช่างใช้ผ้าเช็ดตัวเช็ดผมให้เชื้อราก็จะย้ายบ้านเข้าไปอยู่ในผ้านั้นแทนและถ้าทางร้านซักผ้าไม่สะอาดหรือตากแดดไม่แห้งสนิท คนที่ใช้ผ้าผืนนั้นเป็นคนถัดไปก็จะได้รับมรดกเป็นทายาทอสูรนับร้อยๆ ตัว นอกจากนี้ กรรไกรตัดเล็บ ตะไบเล็บ ก็เป็นอุปกรณ์อีกอย่างหนึ่งมักจะมีเชื้อราติดมา เพราะเชื้อรามักสะสมอยู่ที่ซอกเล็บมากเป็นพิเศษ ถ้าลูกค้าคนไหนเป็นเชื้อรา คนที่มาทำเล็บเป็นรายต่อไปก็เตรียมรับของแถมได้เลย
เชื้อราผิวหนัง เช่นเดียวกับเชื้อราแหล่งแฮ้งค์เอาท์ของเชื้อไวรัสก็หนีไม่พ้นอุปกรณ์ที่สัมผัสกับผิวหนังอีกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นหวี กรรไกรตัดเล็บ หินขัดเท้า ผ้าขนหนู เชื้อไวรัสทำให้เกิดโรคได้หลายอย่าง เช่น โรคหูด เป็นสิว กลากเกลื้อน และโรคผิวหนังอีกเยอะแยะ ส่วนคนที่ชอบต่อคนขาก็อาจจะติดโรคตาแดงได้ เพราะกาวที่ช่างเขาใช้ต่อขนตาให้คุณเป็นหลอดเดียวกับที่ใช้กับคนอื่นมาเป็นสิบ
เชื้อปรสิต พูดแบบนี้อาจจะเหมือนเป็นเชื้อโรคตัวใหม่ แต่ถ้าบอกว่า "เหา" สาวๆ ทุกคนคงเข้าใจกันดี ก่อนจะเข้าร้านเสริมสวยร้านไหนจึงต้องไม่ลืมส่งสปายไปเช็คความสะอาดเสียก่อน ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะกลายเป็นตัวการแพร่เหาไปให้เพื่อนๆ ชะอุ๋ย!
เชื้อโรคที่ติดต่อทางเลือด เช่น เชื้อโรคไวรัสตับอักเสบชนิดบีและซี เชื้อพวกนี้มักจะหลบมุมอยู่ตามของมีคมต่างๆ เช่น กรรไกรตัดเล็บ มีดโกน ปัตตาเลี่ยน ถ้าติดต่อกันเมื่อไรคุณก็มีสิทธิ์จะป่วยหนักถึงขั้นต้องนอนพักกันหลายวันเลยทีเดียว
ความเสี่ยงน่ะมีแน่ๆ แต่จะเสี่ยงน้อยลงถ้าคุณเลือกร้านทำผมที่มีระบบถ่ายเทอากาศดี เชื้อไวรัสจะได้ไม่แออัดอยู่ในร้าน
ขอขอบคุณ ที่มา : Spicy