โรคภูมิแพ้ของสาวยุคใหม่
โรคภูมิแพ้ของสาวยุคใหม่
วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับโรคภูมิแพ้ของสาวยุคใหม่กันค่ะ เพราะสาวทำงานสมัยนี้หลายคนเป็นโรคภูมิแพ้กันเป็นแถว เรามาดูกันดีกว่าว่าโรคนี้มีความเป็นมายังไงกันบ้าง


ภาพจาก : samitivejhospitals.com

วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับโรคภูมิแพ้ของสาวยุคใหม่กันค่ะ เพราะสาวทำงานสมัยนี้หลายคนเป็นโรคภูมิแพ้กันเป็นแถว เรามาดูกันดีกว่าว่าโรคนี้มีความเป็นมายังไงกันบ้าง

โรคภูมิแพ้ที่ว่านี้เกิดจากสาร "นิกเกิล" ซึ่งเป็นสารเคมีชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาชุบวัสดุเพื่อให้เกิดความเงางาม เช่น สร้อยคอ ต่างหู แหวน กำไล ซิป โครงเสื้อชั้นใน ที่ดัดขนตา เป็นต้น โดยอาการภูมิแพ้ที่เกิดจากสารตัวนี้เป็นผลพวงอีกอย่างหนึ่งของสภาวะโลกร้อนที่ส่งผลถึงมนุษย์โดยตรง เนื่องจากความแปรปรวนของสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน และผิวของเราเป็นด่านแรกที่สัมผัสกับสภาพอากาศเช่นนั้น และอย่างที่เรารู้กันดีว่าสภาวะโลกร้อนทำให้มีการหลั่งเหงื่อมากขึ้น ซึ่งเหงื่อจะเป็นตัวละลาย "สารนิกเกิล" ออกมาจากผลิตภัณฑ์ก่อให้เกิดผื่นภูมิแพ้ที่ผิวหนังได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาวๆ ที่ชอบการแต่งตัว

การแพ้นิกเกิลเป็นการอักเสบของผิวหนังที่เกิดจากการสัมผัสกับโลหะที่มีส่วนผสมของนิกเกิล โดยผู้หญิงส่วนใหญ่จะเกิดจากการสัมผัสโดยตรงจากเครื่องประดับโลหะ และสารเคมีที่ใช้ในชีวิตประจำวันบางชนิด เช่น น้ำหอม เครื่องสำอางที่มีโลหะหนักปนเปื้อน และการที่ผิวหนังอักเสบบ่อยจากการแพ้ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวอ่อนแอ จนส่งผลทำให้ผิวแก่ก่อนวัยได้

ภาพจาก : samitivejhospitals.com

วิธีสังเกตว่าแพ้นิกเกิลง่ายๆ คือผิวหนังเป็นผื่นแดง ขอบเขตมักกระจายออกไปจากบริเวณที่สัมผัสสาร มีอาการคัน การเกาจะทำให้ผื่นกำเริบหรือขยายวงกว้างขึ้นได้ และผื่นจะเป็นเม็ดตุ่มนูนและตุ่มน้ำพองใส หากแตกออกเป็นน้ำเหลืองไหลเยิ้มอาการคันจะยิ่งมากขึ้น และถ้าเป็นในระยะเรื้อรังจะทำให้ผื่นผิวหนังหนานูนขึ้น มีสีคล้ำ ผิวไม่เรียบ มีขุย นอกจากนี้อาจทำให้เกิดผื่นกระจาย ตุ่มน้ำใส ลมพิษ หรือเป็นทั้งตัว

ทั้งนี้ ผู้ที่แพ้นิกเกิลจะเริ่มเกิดอาการคันใน 15-30 นาที
 หลังจากสัมผัสสารที่มีนิกเกิลเป็นส่วนประกอบ จากนั้นจะเป็นตุ่มน้ำใสหรือผื่นแดงบริเวณที่ใส่ตุ้มหู กำไล แหวน นาฬิกา กระดุมกางเกงยีนส์ ตะขอชุดชั้นใน ภายใน 45-60 นาที ถ้าเป็นมากจะพบผื่นกระจายทั่วตัว

รู้จักโรคภูมิแพ้ของสาวยุคใหม่กันไปแล้ว ลองสังเกตตัวเองดูนะคะ ถ้ามีอาการเหมือนที่บอกไป ก็ควรไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการรักษาและป้องกันการลุกลามที่รุนแรงขึ้นค่ะ

ขอขอบคุณ นิตยสารเรื่องผู้หญิง 



ปฏิกิริยาของคุณ?