แนะ เคล็ดลับ 3 อ. เพื่อสุขภาพดียามสูงวัย
แนะ เคล็ดลับ 3 อ. เพื่อสุขภาพดียามสูงวัย
ร่างกายของมนุษย์ทุกคนจะเริ่มเข้าสู่ความเสื่อม ก็คือช่วงหลังวัยเจริญพันธุ์นั่นก็คือ ตั้งแต่อายุ 30 ปี สมรรถภาพการทำงานของทุกอวัยวะลดลงเฉลี่ยร้อยละ 1 ต่อปี


ร่างกายของมนุษย์ทุกคนจะเริ่มเข้าสู่ความเสื่อม ก็คือช่วงหลังวัยเจริญพันธุ์นั่นก็คือ ตั้งแต่อายุ 30 ปี สมรรถภาพการทำงานของทุกอวัยวะลดลงเฉลี่ยร้อยละ 1 ต่อปี เมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี หรืออายุ 40 ปี ระบบในร่างกายจะเสื่อมลงร้อยละ 10 และนำไปสู่โรคร้ายได้ในที่สุด!

นพ.เกริกยศ ชลายนเดชะ ผุ้อำนวยการโรงพยาบาลพญาไท 1 ให้ความรู้ว่าเมื่อเราอายุ 40 ปีขึ้นไป รอยย่นตามผิวหนังจะค่อยๆ เพิ่มขึ้น มวลกระดูกและไตทำงานลดลง ตับอ่อนทำหน้าที่ย่อยสลายน้ำตาลในกระแสเลือดลดน้อยลง เวลาออกกำลังกายจะเหนื่อยเร็วขึ้น โดยพบคนไข้เป็นโรคเบาหวานในช่วงวัยนี้เนื่องจากความเสื่อมถอยของกำลังสำรองและนำไปสู่โรคร้าย เช่น กระดูกพรุน เบาหวาน หัวใจ หัวใจขาดเลือด โลหิตจาง ความดันโลหิตสูง ฯลฯ

ดังนั้นเพื่อให้วัย 40 + ยังเป็นวัยที่คงความสดใสแข็งแรง อันเป็นพื้นฐานนำไปสู่การมี ?สุขภาพดีและอ่อนกว่าวัย? เมื่อถึงวัยชรา (60 ปีขึ้นไป) ควรปฏิบัติตัวตาม เคล็ดลับ 3 อ. ดังนี้ อ.แรก คือ อาหาร แม้ว่าวัย 40+ เป็นวัยที่ยังแข็งแรง แต่สิ่งหนึ่งที่เราเองไม่รู้ตัวก็คือกำลังสำรองที่ลดลงไปและโรคเรื้อรังที่เกิดจากความเสื่อมของเซลล์และระบบอวัยวะ อาหารจึงเป็นปัจจัยสำคัญควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในแต่ละวันประกอบด้วย โปรตีน เช่น เนื้อปลา หรือเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน ดื่มนมพร่องมันเนย หากไม่มีปัญหาไขมันในเลือดสูง บริโภคไข่ได้สัปดาห์ละ 3-5 ฟอง หากมีปัญหาไขมันในเลือดสูงควรบริโภคเฉพาะไข่ขาว ส่วน คาร์โบไฮเดรต ได้แก่ อาหารประเภทแป้งและน้ำตาล ควรบริโภคน้อยลง บริโภคน้ำมันพืชที่ผลิตจากข้างโพด ถั่วเหลืองและเมล็ดทานตะวัน เพราะมีกรดไขมันอิ่มตัวน้อย และ ผัก ผลไม้ มีเกลือแร่และวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายมาก เช่น ธาตุเหล็กพบมากในผักรสขม เช่น ใบขี้เหล็ก มะระ ส่วนแคลเซียมมีมากในผักใบเขียว นมและปลา

อ.ที่ 2 ออกกำลัง การออกกำลังกายควรเป็นแบบแอโรบิก เพราะจะส่งผลดีต่อหัวใจ ปอดและหลอดเลือด ทำให้ร่างกายมีกำลังสำรองสูงขึ้น แต่ควรออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอวันละ 20-30 นาทีหรือประมาณ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ การออกกำลังกายที่ได้ประโยชน์จะต้องออกกำลังกายจนหัวใจหรือชีพจรเต้นเร็วประมาณร้อยละ 70-80 ของอัตราการเต้นสูงสุดของหัวใจ ดังนั้นผู้ที่มีอายุ 50 ปี ถ้าออกกำลังกายเต็มที่ชีพจรจะอยู่ระหว่าง 119-136 ครั้งต่อนาที (อัตราหัวใจเต้นสูงสุด 220-50 =170 ครั้งต่อนาที ร้อยละ 70-80 ของ 170 ครั้งต่อนาที =119-136 ครั้งต่อนาที) และ อ.ที่ 3 ?อนามัย? ควรลด ละ เลิก สารเสพติดทุกชนิด เช่น บุหรี่ สุรา หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ต่างๆ รวมทั้งควรตรวจสุขภาพประจำปี จะช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย อันจะนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคตได้ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงความชราได้ แต่เราสามารถป้องกันโรคร้ายแห่งวัยที่จะถามหาได้ด้วยการปฏิบัติตาม เคล็ดลับ 3อ. ที่คุณหมอแนะนำค่ะ

ขอบคุณ ที่มา : dailynews ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต



ปฏิกิริยาของคุณ?