มุมมอง
ผู้ที่ติดเชื้อ COVID-19 มีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานทั้งในช่วงติดเชื้อและหลังรักษาหายแล้วได้ โดยการเกิดเบาหวานหลังการติดเชื้อสามารถเกิดได้ทั้งคนที่ได้รับเชื้อในปริมาณมากและปริมาณน้อย ทั้งคนที่สุขภาพแข็งแรงก็มีความเสี่ยงไม่น้อยไปกว่ากัน
พญ.รัตนพรรณ สมิทธารักษ์อายุรแพทย์โรคต่อมไร้ท่อ และ เมตะบอลิสม โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า เมื่อติดเชื้อ COVID-19 แล้วมีโอกาสสูงถึง 1.4 เท่า ที่จะทำให้เกิดโรคเบาหวานตามมาได้ โดยเบาหวานจาก COVID-19 เกิดจากการติดเชื้อจนทำให้เกิดการอักเสบในหลายระบบและส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น หากน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นจะส่งผลให้ตัวโรคแย่ลง ถ้าไม่สามารถคุมได้จะทำให้เลือดมีความเข้มข้นมากขึ้น จนทำให้ สมองทำงานผิดปกติ แสดงความรู้สึกได้ลดลงจนเกิดอาการซึม และเชื้ออาจทำลายตับอ่อนจนทำให้ไม่สามารถผลิตอินซูลินได้เป็นปกติ ซึ่งสามารถเกิดได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่
"ในฝั่งยุโรปโอกาสเกิดเบาหวานชนิดที่ 1 ในเด็ก เพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ และกว่าครึ่งจะเข้ารับการรักษาด้วย ภาวะเลือดเป็นกรด มาด้วยอาการปัสสาวะบ่อย ปากแห้ง คอแห้ง หายใจเร็ว มีอาการหอบ เหนื่อย ในกรณีที่เกิดจาก การรักษา คือ คนไข้ติดเชื้อรุนแรงจนต้องมีการให้ยาสเตียรอยด์ เพื่อลดการอักเสบ จนอาจทำให้เกิดเบาหวานชนิดที่ 2 ในผู้ใหญ่ ได้ชั่วคราว เมื่อหยุด สเตียรอยด์แล้วเบาหวานก็จะดีขึ้น” พญ.รัตนพรรณ กล่าว
นอกจากนี้ เบาหวานยังสามารถเกิดหลังจากรักษาหายแล้ว 1-3 เดือนได้ ด้วยการโดนกระตุ้นจากการ ติดเชื้อที่ผ่านมา โดยสามารถเกิดได้ทั้งคนที่มีการติดเชื้อ อย่างหนักและคนที่ติดเชื้อไม่มากได้ จะเรียกว่า โรคแทรกซ้อนจากภาวะ Long COVID โดยไม่นับคนที่เป็นเบาหวานอยู่แล้ว แต่จากคนไข้ 40-50 เปอร์เซ็นต์ สามารถหายได้เองในช่วงระยะเวลา 1 ปีหลังจากการรักษา ในคนที่เป็นเบาหวานอยู่แล้วเกิดการติดเชื้อ COVID-19 ความ รุนแรงของโรคจะมากกว่าคนที่ไม่ได้เป็นเบาหวาน และตัว โรคเองก็จะคุมได้ยากขึ้น ความรุนแรง ของคนที่เป็นเบาหวานแล้วติดเชื้อ COVID-19 จะขึ้นอยู่กับความรุนแรง ของเชื้อที่ได้รับ โดยจะสัมพันธ์กัน ทั้ง 2 ฝ่าย คือ COVID-19 ทำให้ เบาหวานแย่ลง หรือเบาหวานทำให้ อาการจาก COVID-19 แย่ลงได้ เช่นเดียวกัน รวมถึงอาจทำให้เกิด ภาวะแทรกซ้อนโรคเบาหวาเฉียบพลันได้ เช่น ภาวะเลือดเป็นกรดภาวะซึมจากน้ำตาลในเลือดสูง เป็นต้น
แนวทางการรักษาเมื่อเกิดเบาหวานจากการติดเชื้อ COVID-19 ในปัจจุบันยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจน โดยในคนที่มีความเสี่ยงสูงคือ อายุ 60-65 ปีขึ้นไป มีภาวะ น้ำหนักเกินคนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ ความดันสูง ไขมันสูง โรคหัวใจ เป็นต้น ควรตรวจเพื่อหาเบาหวานแต่เนิ่นๆ ถ้ามีอาการปัสสาวะบ่อย ปากแห้ง ดื่มน้ำมากกว่าปกติ หรือ ในคนที่ประวัติการรับเชื้อ COVID-19 แบบรุนแรง หลังจากรักษาหายแล้ว ควรเข้ารับการตรวจเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ การดูแลตัวเอง ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้โอกาสเสี่ยงในการเกิดเบาหวานลดลงได้
ที่มา : แนวหน้า ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต