มุมมอง
แม้ว่าเมืองไทยจะเป็นเมืองร้อนที่มีโอกาสได้รับแสงแดดทั้งวัน เพื่อให้ร่างกายสามารถสังเคราะห์วิตามินดีได้ก็ตาม แต่ด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป ที่มักอยู่แต่ในบ้าน ในตึกอาคารไม่ได้เดินออกไปภายนอก รวมถึงการทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ ทำให้ร่างกายไม่ได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอ
จากผลสำรวจคนไทยส่วนใหญ่ขาดวิตามินดีจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงวัยพบว่ามีภาวะขาดวิตามินดีมากถึง 1 ใน 3 หรือ 31.8 เปอร์เซ็นต์ และในกลุ่มสตรีวัยทอง พบมากถึง 93 เปอร์เซ็นต์ จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อร่างกายขาดวิตามินดีและแคลเซียม
จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อร่างกายขาดวิตามินดีและแคลเซียม
เรามักจะได้ยินเสมอถึงคุณสมบัติที่มาคู่กันของวิตามินดีและแคลเซียมในด้านการเสริมสร้างมวลกระดูก เพราะวิตามินดีมีหน้าที่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม ดังนั้นการขาดวิตามินดีก็อาจเป็นสาเหตุที่ให้เกิดการขาดแคลเซียม ร่างกายจึงต้องสลายมวลกระดูกเพื่อปลดปล่อยแคลเซียมออกมาในกระแสเลือด และเมื่อเป็นเช่นนี้ในระยะยาวทำให้กระดูกเปราะบาง เสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุนได้
แต่ถ้าหากร่างกายมีวิตามินดีเพียงพอ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมแคลเซียมได้ถึง 30 - 40 เปอร์เซ็นต์ เลยทีเดียว และช่วยให้ร่างกายนำแคลเซียมไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุ ที่จำเป็นต้องได้รับวิตามินและแคลเซียมในปริมาณที่เหมาะสม
ประโยชน์ดีๆ ที่ได้รับจากวิตามินดีและแคลเซียม
ผู้สูงอายุจำเป็นต้องได้รับวิตามินดีและแคลเซียมในปริมาณที่เพียงพอ เพราะแคลเซียมมีส่วนในการซ่อมแซม เสริมสร้างกระดูกและมวลกล้ามเนื้อ รวมถึงช่วยป้องกันภาวะกระดูกบาง กระดูกพรุน และกระดูกเสื่อมหรือหักง่ายที่มีโอกาสเกิดขึ้้นได้มากในผู้สูงอายุ เนื่องจาก 20% ของแคลเซียมในกระดูกของคนที่อายุมากจะถูกย่อยสลายและสร้างใหม่ทุกปี
ขณะเดียวกันวิตามินดี ยังมีส่วนสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทั้งควบคุมการทำงานและกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาว ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และที่สำคัญคือช่วยพัฒนาสมองและเซลล์ประสาท กระตุ้นเอนไซม์ที่ใช้ในการสังเคราะห์สารสื่อประสาท ช่วยลดความเครียดและภาวะซึมเศร้าได้อีกด้วย
แหล่งอาหารที่ให้วิตามินดีและแคลเซียมพบที่ไหนบ้าง
แม้ว่าร่างกายคนเราจะสามารถรับวิตามินดีได้จากแสงแดด แต่ปัจจัยต่างๆ ทำให้เราไม่ได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอ เพราะฉะนั้น นอกจากการพยายามออกไปรับแสงแดงในตอนเช้าแล้ว คงหนีไม่พ้นเรื่องของการทานอาหารที่อุดมไปด้วย
- วิตามินดี แต่แหล่งอาหารที่มีวิตามินดีสูงค่อนข้างหายาก พบได้ในอาหารเพียงไม่กี่ชนิด ได้แก่ ตับ เนย ไข่แดงปลาแซลมอน ปลาทับทิม ปลาทูน่า ปลาทู และเห็ดบางชนิด เช่น เห็ดนางฟ้า เห็ดหอมสด
- ส่วนแหล่งของแคลเซียม สามารถหาได้ง่ายกว่า ไม่ว่าจะเป็น นม เต้าหู้ ถั่วชนิดต่างๆ ผักคะน้า บร็อคโคลี่ และปลาตัวเล็ก
เป็นที่น่าสนใจว่า โดยทั่วไปนมและผลิตภัณฑ์จากนม ซึ่งเป็นแหล่งของแคลเซียมไม่ใช่แหล่งอาหารที่มีวิตามินดีสูง ปัจจุบันเริ่มมีผู้ผลิตบางรายให้ความสำคัญและเติมวิตามินดีในนมกันมากขึ้น เพราะการเสริมวิตามินดีจะช่วยให้ลำไส้ดูดซึมแคลเซียมในทางเดินอาหารเพิ่มขึ้น ลดการขับแคลเซียมออกจากปัสสาวะ ส่งเสริมการสร้างมวลกระดูกเพิ่มขึ้น วิตามินดีและแคลเซียมจึงจัดเป็นเพื่อนคู่ซี้ที่ต้องมาคู่กันเสมอ
ที่มา : YOUNG HAPPY ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต