มุมมอง
สาวๆ ที่อยากให้ริมฝีปากอวบอิ่ม หรือแก้ไขรูปปาก ก็สามารถฉีดฟิลเลอร์ได้ทั้งริมฝีปากบนและล่าง รวมทั้งผู้ที่ต้องการลดร่องลึกหรือริ้วรอยย่นบนริมฝีปากให้กลับมาตึงกระชับและอิ่มสวยได้รูปอาจต้องตัดสินใจดีๆ เพราะถ้าทำไม่ดีก็อดสวย และอาจเกิดปัญหายุ่งยากตามมา ส่วนสาวคนไหนที่คิดจะสวยโดยไม่พึ่งการแต่งหน้า อย่าลืมศึกษาข้อมูลดีๆ ก่อนทำด้วยล่ะ เพราะขนาดดาราฮอลลีวูดก็ยังฉีดริมฝีปากพรากกันมาหลายคนแล้ว
Fast-Fix
การฉีดเสริมรูปปากในปัจจุบันโดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด นอกจากจะเป็นกรณีของคนที่มีริมฝีปากใหญ่ที่ต้องผ่าตัดและเย็บให้เล็กลง ก็ยังมีวิธีฉีดริมฝีปากที่กำลังนิยมในปัจจุบันก็คือ
Filler เป็นการฉีดริมฝีปากวิธีหนึ่งที่กำลังแพร่หลาย โดยมีสารพื้นฐานคือกรดไฮยาลูรอนิกอย่าง Restylane, Perlane และ Juvederm ซึ่งเป็นสารที่แพทย์ให้การรับรองว่าเหมาะสำหรับการฉีดริมฝีปาก เพราะเนื้อสารนุ่ม จึงช่วยเติมเต็มริมฝีปากได้อย่างเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นาน 7-9 เดือน ส่วนคอลลาเจนก็สามารถใช้ได้เช่นกัน แต่ผลจะอยู่ได้ไม่นานเท่าสารจากกรดไฮยาลูรอนิกคือประมาณ 6 เดือน และมีราคาค่อนข้างสูง
โดยในการรักษาแพทย์จะฉีดยาชาก่อน แล้วทำการฉีดฟิลเลอร์ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่มีอยู่ในผิวหนังโดยสารนี้จะเข้าไปเติมเต็มเซลล์ผิวริมฝีปาก รวมทั้งลดร่องลึกและริ้วรอยบนริมฝีปากและจะเห็นผลชัดเจนได้หลังจากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ บางรายอาจมีความรู้สึกตึงและมีรอยบวมแดงในบริเวณที่ฉีด แต่จะเริ่มหายไปภายใน 1-4 สัปดาห์ และการฉีดฟิลเลอร์นี้สามารถฉีดซ้ำได้เมื่อของเดิมนั้นสลายตัวไป นอกจากนี้ นวัตกรรมความงามในต่างประเทศเช่น อเมริกา ยังมีฟิลเลอร์ที่ถูกดึงมาจากไขมันของผู้รักษาด้วย
ข้อควรระวัง
สารที่อันตรายอย่างยิ่งสำหรับการฉีดปากและควรเลี่ยงอย่างเด็ดขาดก็คือ ซิลิโคนเหลว เพราะเป็นสารสังเคราะห์ซึ่งนับว่าแปลกปลอมและไม่ย่อยสลาย จึงทำให้เกิดอาการอักเสบและในอนาคตก็จะไปกระจุกกันเป็นก้อนอยู่ด้านล่างตามแรงโน้มถ่วงของโลก ซึ่งคลินิกเถื่อนทั้งหลายมักเลือกใช้ซิลิโคนเหลวเพราะมีราคาถูก ดังนั้น การเลือกคลิกนิกที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานจึงสำคัญมาก เมื่อคิดจะฉีดริมฝีปากอย่าเพิ่งรีบตัดสินใจ คุณควรมั่นใจก่อนว่าสารที่ใช้ในการฉีดริมฝีปากของคลินิกที่คุณเลือกนั้นปลอดภัยจริงๆ
ขอขอบคุณ ที่มา : Lisa