มุมมอง
รอยสักถือเป็นแฟชั่นอีกอย่างหนึ่งที่ทุกๆ คนให้ความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็สามารถมีรอยสักได้ง่ายๆ ยิ่งในปัจจุบันนี้เทคโนโลยีก้าวหน้ามากขึ้น การสักก็ง่ายขึ้นแถมมีลายสวยๆ ให้เลือกอีกมากมาย แต่ถ้าอยู่ๆ เกิดอยากลบขึ้นมาล่ะ ต้องทำยังไงดีนะ
การสักเป็นอีกกิจกรรมที่ยังฮิตไม่เลิก แถมช่างมีฝีมือมีมากมาย โดยใช้เข็มมอเตอร์ขยับแทงผิวหนังที่ความลึกระหว่าง 0.6-22 มิลลิเมตร ให้น้ำหมึกลงไปยังเนื้อเยื่อและดูดซึมเก็บสะสมไว้ ทำให้ลวดลายอยู่ทนจนสิ้นอายุขัย หากต้องการเก็บไว้นานๆ อาจไม่เป็นไร แต่สำหรับรายที่ต้องการลบออกเมื่อความคิดเปลี่ยนไปนี่สิ เรื่องนี้ต้องให้เทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นตัวช่วย
คิดก่อน แน่นอนสุด
"รอยสักนั้นก็เหมือนประสบการณ์ที่ยากจะทำลาย ดังนั้นคิดให้ดีก่อนทำเป็นสิ่งที่หมออยากแนะนำเป็นอย่างแรก เพราะหากต้องการทำให้หายไปเหมือนกับไม่เคยมีมาก่อนนั้นเป็นไปไม่ได้ ทางเลือกสำหรับการทำลายก็คือการผ่าตัดออกและปลูกถ่ายผิวหนัง ซึ่งเท่ากับการแลกกับแผลถึงสองที่และมีความเสี่ยงด้วย หรือเลือกการใช้เลเซอร์ก็น่าสนใจและให้ผลลัพธ์ที่ยอมรับได้ในแวดวงวิชาการด้วย"
"เดี๋ยวนี้มีการพัฒนาเลเซอร์ใหม่ๆ ที่ทำให้รอยสักจางลงได้ดีขึ้น ครอบคลุมหลายสีมากขึ้น ในทางกลับกันวงการรอยสักก็มีการคิดค้นหมึกที่แตกตัวและสลายได้ง่ายเมื่อโดนเลเซอร์อีกด้วย
แล้วจะเลือกเลเซอร์แบบไหนดี
ในปัจจุบันเราใช้เลเซอร์ทำลายเม็ดสี ที่เรียกว่า Pigmented Laser ได้แก่ เลเซอร์ทับทิม (Ruby Laser) และ ND-Yag Laser
"พลังงานจากแสงเลเซอร์นี่เองที่จะทำให้เม็ดสีของหมึกที่สักลงไปซึ่งเป็นโมเลกุลใหญ่แตกตัวกระจายออก จากนั้นก็เป็นการอาศัยกลไกการกำจัดสิ่งแปลกปลอมของร่างกายนี่ล่ะ ที่จะขจัดเอาเม็ดสีที่แตกเป็นชิ้นเล็กๆ นั้นออกไป ทำให้รอยสักจางลงไปโดยการทำเลเซอร์จะทำประมาณ 3-7 ครั้ง ขึ้นอยู่กับปริมาณสี ชนิดของสี ขนาดหรือบริเวณพื้นที่ของรอยสัก และระยะเวลาที่ใช้ทำในแต่ละครั้งค่ะ"
Doctor's Note การสักอาจใช้เวลาวันเดียว แต่การลบอาจทำหลายครั้งจนกว่ารอยจะจางลง โดยทำทุก 1-2 เดือน หลังการทำเลเซอร์ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดที่อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น เกิดรอยดำและทำให้ประสิทธิภาพในการลบรอยต่ำลงได้
ขอขอบคุณ ที่มา : นิตยสาร Lisa ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต