มีงานวิจัยพบว่าการปล่อยให้ลูกกินข้าวหน้าทีวีจะทำให้ลูกมีน้ำหนักที่เกินเกณฑ์มากกว่าการนั่งกินข้าวที่โต๊ะอาหารนะคะ เพราะฉะนั้นเรามาชวนลูกน้อยให้นั่งทานข้าวที่โต๊ะกันดีกว่าค่ะ
1. เตรียมอุปกรณ์ให้ลูก เพื่อให้ลูกนั่งโต๊ะกินข้าวเดียวกับเราได้อย่างสะดวกสบาย คุณควรมีเก้าอี้สำหรับเขาโดยเฉพาะซึ่งเดี๋ยวนี้มีให้เลือกหลายรูปแบบ ทั้งเก้าอี้สูง เก้าอี้แบบบูสเตอร์ (Booters) ที่สามารถนำไปผูกติดกับเก้าอี้ผู้ใหญ่อีกที พร้อมทั้งควรจัดจาน ชาม ช้อนส้อม แก้วน้ำของลูกให้เขาสามารถตักข้าวกินเองร่วมกับพ่อแม่ได้
2. ตัดสิ่งเร้า สำหรับเด็กวัยนี้ที่มักจะอยู่ไม่นิ่ง หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้ลูกนั่งโต๊ะกินข้าว และใส่ใจกับอาหารและการกินก็ต้องตัดสิ่งเร้าที่จะมาเป็นตัวเรียกร้องความสนใจของเขาไปเช่นปิดโทรทัศน์ เก็บของเล่น หรือขนมที่จะมาเบี่ยงเบนความสนใจออกซะ คุณแม่อาจชี้ชวนให้เขาลองอาหารต่างๆ หรือชวนลูกคุยเรื่องสนุกๆ ที่เขาชอบเป็นการสร้างบรรยากาศที่ดีบนโต๊ะอาหารอีกด้วย
3. ยืดหยุ่น ไม่ทำบรรยากาศการกินข้าวให้เคร่งเครียด แม้ว่าเราอยากให้ลูกสนใจกับอาหารที่โต๊ะ ตั้งใจกินข้าวให้เรียบร้อยไม่ควรตั้งกฎเกณฑ์ที่เคร่งครัดเกินไปโดยเฉพาะในช่วงแรกที่ลูกคงนั่งอยู่เฉยๆ ได้ไม่นาน หรืออาจจะใช้มือจับอาหารกินบ้าง คุณต้องใจเย็นและยินยอมหากลูกอยากตักอาหารที่อยากชิมด้วยตัวเอง แม้จะเลอะเทอะบ้าง
4. ทำเป็นตัวอย่าง เด็กๆ นั้นจะมองคุณพ่อคุณแม่เป็นตัวอย่างและมักจะทำตามในสิ่งที่พ่อแม่ทำอยู่เสมอ เช่น หากอยากให้ลูกกินผักคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องทำเป็นตัวอย่างก่อนค่ะ คุณควรทำให้เวลากินข้าวเป็นเวลาของครอบครัวที่พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย มานั่งกินข้าวด้วยกัน คุยกัน และกินอย่างมีความสุข ลูกก็จะรู้สึกอยากเข้ามามีส่วนร่วมในการมานั่งกินข้าวด้วย
5. มีอาหารหลากหลาย คุณแม่อาจจัดเมนูให้ลูกหลากหลายสลับกันไป เพื่อไม่ให้เขารู้สึกซ้ำซากจำเจจนหมดความสนใจจากโต๊ะอาหารไป อาจมีนิ่มบ้าง แข็งบ้าง หนึบหนับได้บ้าง และเลือกอาหารที่ง่ายแก่การกินของลูก เช่น พวกฟิงเกอร์ฟู้ด เพื่อให้เขาได้หยิบจับและรู้สึกสนุกสนานกับการกิน
6. ให้กำลังใจ สิ่งสำคัญเลยค่ะ เมื่อลูกสามารถนั่งกินได้ หรือนั่งกินข้าวจนหมด คุณพ่อคุณแม่ก็อย่าลืมที่จะกล่าวชมเชยเขาด้วยนะคะ
ขอขอบคุณ ที่มา : นิตยสาร Modern Mom ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
