ช่วงหลัง Vimeo กลายเป็นแพลตฟอร์มฝากวิดีโอยอดนิยมของเหล่าครีเอเตอร์ โดยเฉพาะคนที่หารายได้ผ่านระบบสมาชิกอย่าง Patreon
วิธีการมาตรฐานคือ ครีเอเตอร์เก็บเงินค่าสมาชิกผ่าน Patreon โดยสมาชิกจะเข้าถึงวิดีโอที่โฮสต์ไว้บน Vimeo อีกทีหนึ่ง (Patreon ไม่มีระบบโฮสต์วิดีโอ) เหตุผลคือ Vimeo มีฟีเจอร์เรื่องการจำกัดวิธีการดูวิดีโอมากกว่า YouTube เช่น การตั้งค่า embed ที่ละเอียดกว่า โดยครีเอเตอร์จำเป็นต้องจ่ายค่าสมาชิก Vimeo แบบพรีเมียมด้วยเช่นกัน (เริ่มต้นที่ 7 ดอลลาร์ต่อเดือน ขึ้นกับขนาดของพื้นที่สตอเรจ - ตารางราคา)
แต่ก่อนหน้านี้ มีครีเอเตอร์จำนวนหนึ่งออกมาโวยว่า Vimeo เรียกเก็บเงินค่าแบนด์วิดท์เพิ่ม สำหรับบัญชีที่มีการใช้งานระดับ top 1% ของแพลตฟอร์ม โดยราคาสูงถึง 3,000-7,000 ดอลลาร์ต่อปีขึ้นกับปริมาณการใช้งาน หากไม่จ่ายก็จะถอดวิดีโอทั้งหมดออกจากแพลตฟอร์ม
หลังมีข่าวเรื่องนี้ออกมา Vimeo ออกมาชี้แจงว่า นโยบายการเก็บเงินค่าแบนด์วิดท์เพิ่มนั้นมีมานานแล้ว โดยใช้เฉพาะผู้ใช้กลุ่ม top 1% เท่านั้น และ 70% ผู้ใช้กลุ่มนี้เลือกจ่ายเงินเพิ่มเพื่อใช้งานต่อ ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากฝั่ง Vimeo เองที่สื่อสารเรื่องนี้ไม่ดีพอ เพราะไม่เคยประกาศในที่สาธารณะว่ามีนโยบายนี้อยู่
อย่างไรก็ตาม Vimeo บอกว่าเพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้น จึงปรับนโยบายใหม่เป็นการจำกัดโควต้าแบนด์วิดท์ที่ 2TB ต่อเดือนสำหรับผู้ใช้ทุกคนเพื่อให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน โดยผู้ใช้สามารถดูโควต้าแบนด์วิดท์ได้จากหน้าบัญชีของตัวเอง และ Vimeo จะเพิ่มการแจ้งเตือนแบนด์วิดท์ใกล้ครบโควต้าให้บ่อยขึ้น
Vimeo บอกว่าผู้ใช้ที่แบนด์วิดท์เกิน 2TB ต่อเดือนมีน้อยมาก มีสัดส่วนไม่ถึง 1% ของบัญชีทั้งหมด ดังนั้นผู้ใช้ส่วนใหญ่จะไม่ได้รับผลกระทบอะไรอยู่แล้ว
