“เอเซอร์” เดินหน้าสานภารกิจ Green IT ต่อยอดกลยุทธ์ Lifestyle Brands พร้อมขนทัพสินค้า และโซลูชั่นด้านไอทีตอบโจทย์ความต้องการทั้งลูกค้าองค์กร และคอนซูมอร์ ย้ำธุรกิจยุคใหม่ต้องให้ความสำคัญกับการใช้ประโยขน์จาก “ข้อมูล” ควบคู่ความบผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม เน้นการสร้างความยั่งยืนให้ทุกภาคส่วน
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 นายอลัน เจียง กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย และภูมิภาคอินโดจีน บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า สถานการณ์ที่น่ากังวลจาก Covid-19 ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต และการทำงาน เป็น Contactless, Hybrid Working, Remote Access รวมถึงการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในรูปแบบเสมือนจริง (Virtual life activity)
ขณะที่สภาวะโลกร้อน (Climate Change) เป็นอีกสถานการณ์ที่ต้องเร่งป้องกัน แก้ไข และปรับตัว เพื่อช่วยรณรงค์เรื่องการปล่อยของเสีย การใช้พลังงานหมุนเวียน หรือพลังงานทดแทน รวมถึงการใช้วัสดุรีไซเคิล ซึ่ง Green IT หรือการนำเสนอผลิตภัณฑ์จากวัสดุรีไซเคิล เป็นพันธกิจของบริษัท ควบคู่ไปกับกลยุทธ์ Lifestyles Brands ที่ขับเคลื่อนด้วยไอที โซลูชั่น และผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนอง Live, Work, Learn, Play ให้กลุ่มองค์กรธรุกิจ และคอนซูเมอร์
นางสาวณัฐวรรณ ตะเภาน้อย ผู้จัดการอาวุโสกลุ่มผลิตภัณฑ์เอ็นเตอร์ไพรส์ และคอมเมอร์เชียล บริษัทเดียวกัน กล่าวว่า โซลูชั่น และแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจในปัจจุบันจะให้ความสำคัญกับ “ข้อมูล”มากขึ้น แบ่งเป็น 2 เทรนด์ คือ The Power of Data และ Digital Lifestyle โดยมุ่งไปยัง 3 อุตสาหกรรม ได้แก่ การศึกษา เฮลท์แคร์ และอุตสาหกรรมการผลิต
ในส่วน The Power of Data ประกอบด้วยโซลูชั่น และผลิตภัณฑ์ จาก Altos Computing ต่อยอดจากยุคของการบริหารจัดการข้อมูล สู่การประยุกต์ และนำเสนออย่างมีประสิทธิภาพ แบ่งออกเป็น 1.Centric the Artificial Intelligent การผสานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์กับข้อมูลดิจิทัลเข้าด้วยกัน ได้แก่ Altos aiWorks แพลตฟอร์มเพื่อพัฒนา AI ที่ช่วยสร้างประสบการณ์ที่ง่าย และรวดเร็วในการจัดเตรียม Environment สำหรับนักพัฒนาเป็นทีม และ Acer VeriSee DR พัฒนา AI ยกระดับคุณภาพทางการแพทย์ ทำให้ตรวจวิเคราะห์ความเสี่ยงจากโรคเบาหวานขึ้นตามีความแม่นยำถึง 93% เป็นการรวมกันของ เอไอ และข้อมูลที่มี
และ 2.Experience in Digital Universe การต่อยอด และผสานองค์กรเข้าสู่การสร้างประสบการณ์โนโลกดิจิทัล เช่น Mixed Reality Ecosystem พัฒนา AR/VR ในภาคธุรกิจ รวมถึงบุคลากรดิจิทัล
ส่วนเทรนด์ Digital Lifestyle การดำเนินธุรกิจที่ผสาน และประยุกต์ใช้ IoT เพื่อสร้าง และตอบโจทย์ประสบการณ์ดิจิทัล ได้แก่ EDGE Computing เป็นรูปแบบการวางไอทีภายในองค์กรที่เน้นเสถียรภาพการให้บริการและตอบสนองได้รวดเร็วภายใต้สถานที่ และสภาพแวดล้อมจำกัด, Altos BrainSphere Server&Workstation with Sunlight ชุดประมวลผลที่รวมฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ด้าน HyperConverged เพื่อประสิทธิภาพในการประมวลผล
ด้านนายสุพงศ์ ตั้งตรงเบญจศีล รองผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจค้าปลีก บริษัทเดียวกัน กล่าวว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์จะเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ในหลากหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ ทั้งการใช้ชีวิต (Live) การทำงาน (Work) การเรียนรู้ (Learn) และการเล่นเพื่อความบันเทิง (Play)
โดยในกลุ่ม Live ประกอบด้วย acerpure เครื่องฟอก และหมุนเวียนอากาศ, แก็ดเจ็ทต่าง ๆ เช่น หูฟัง Acer True Wireless Stereo Earbuds, คีย์บอร์ด และเม้าส์, Pawbo อุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีทั้งเครื่องให้อาหารอัจฉริยะและอุปกรณ์ตรวจจับความเคลื่อนไหว, น้ำพุอัจริยะ และเครื่องอบขน เป็นต้น ส่วน Work เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์คนทำงานที่ต้องการประสิทธิภาพ
ได้แก่ โน้ตบุ๊ก Acer Swift X ดีไซน์ทันสมัย แบตเตอรี่ใช้งานยาวนาน ชาร์จไฟได้รวดเร็ว ระบบประมวลผลแบบพกพา AMD RyzenTM 5000 และกราฟิกการ์ด NVIDIA GeForce, ConceptD 3, ConceptD 5 ดีไวซ์ครีเอเตอร์ ดีไซน์ใหม่ พร้อม ezel mode และปากกา WACOM รองรับแรงกด ระดับความแม่นยำของสี Delta E เป็นต้น
ขณะที่กลุ่ม Play มีผลิตภัณฑ์สำหรับเกมมิ่ง ทั้ง Predator และ Nitro ล่าสุดเอเซอร์ได้วางจำหน่าย Green PC ในชื่อ Acer Vero โน้ตบุ๊กรักษ์สิ่งแวดล้อมผลิตจากวัสดุรีไซเคิล PCR 30% ของตัวเครื่องทั้งฝาปิดบน ล่าง กรอบหน้าจอ พื้นผิวทำงานไปจนถึงปุ่มคีย์บอร์ด รวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่ใช้กระดาษรีไซเคิล
นายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัทเดียวกันเสริมว่า การเป็น Lifestyle Brands ทำให้เอเซอร์มุ่งมั่นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ โซลูชั่นต่าง ๆ ด้วยการศึกษาติดตามพฤติกรรม ไลฟ์สไตล์ผู้ใช้งานและกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อเพิ่มและขยายความชำนาญในนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการ และคำนึงถึงการสร้างความยั่งยืนของธุรกิจที่ครอบคลุมไปถึงพาร์ตเนอร์, อีโคซิสเต็มส์พาร์ตเนอร์ รวมถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมด้วย
“ด้านสิ่งแวดล้อม เอเซอร์ตระหนักและให้ความสำคัญอย่างมาก เราตั้งเป้าที่จะใช้พลังงานหมุนเวียนถึง 60% ในปี 2025 ควบคู่ไปกับการใช้วัสดุ PCR ในผลิตภัณฑ์หลักอย่างโน้ตบุ๊ก พีซี และมอนิเตอร์ ซึ่งยอดขายของ Acer Vero โน้ตบุ๊กที่ผลิตด้วยวัสดุ PCR 30% ของตัวเครื่อง ทำให้เราเห็นว่ากลุ่มผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกัน
โดยเรายังร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญออกแบบ และจัดทำผลิตภัณฑ์จากวัสดุรีไซเคิลสำหรับหน้าร้าน เช่น กล่อง แท่นสำหรับจัดวางผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์ตกแต่ง รวมถึงเรื่องขยะอิเล็กทรอนิกส์ เอเซอร์ก็ให้ความสำคัญ มีการตั้งจุดทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ ณ ศูนย์บริการกว่า 33 แห่ง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าขยะเหล่านี้จะได้รับการคัดแยกและทำลายอย่างถูกวิธี”
อ่านข่าวต้นฉบับ: เอเซอร์ ย้ำจุดยืน Green IT เสริมแกร่งไลฟ์สไตล์แบรนด์
