เมื่อปี 2020 ไมโครซอฟท์เคยออกมาประกาศแนวทางเปิดกว้างของ Microsoft Store จำนวน 10 ข้อ ล่าสุดในปี 2022 ไมโครซอฟท์ออกมาประกาศหลักการ Open App Store Principles เพิ่มจำนวนข้อเป็น 11 ข้อ โดยระบุว่าประกาศแนวทางนี้เพื่อแสดงจุดยืนว่าหลังซื้อ Activision-Blizzard แล้วจะยังเปิดกว้างต่อไป นักพัฒนาทุกรายมีสิทธิใช้งานสโตร์ ตราบเท่าที่ผ่านมาตรฐานด้านคุณภาพและความปลอดภัย ซึ่งเป็นมาตรฐานที่สมเหตุสมผลและโปร่งใส (reasonable and transparent standards for quality and safety) ไมโครซอฟท์จะคุ้มครองลูกค้าจากการใช้งานสโตร์ โดยการันตีว่านักพัฒนาผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ไมโครซอฟท์จะเคารพความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ให้ลูกค้าสามารถจัดการข้อมูลของตัวเองได้ ไมโครซอฟท์จะปฏิบัติกับแอพของตัวเอง ด้วยมาตรฐานเดียวกันกับแอพของคู่แข่ง ไมโครซอฟท์จะไม่ใช้ประโยชน์จากข้อมูลบนสโตร์...
เมื่อปี 2020 ไมโครซอฟท์เคยออกมาประกาศแนวทางเปิดกว้างของ Microsoft Store จำนวน 10 ข้อ
ล่าสุดในปี 2022 ไมโครซอฟท์ออกมาประกาศหลักการ Open App Store Principles เพิ่มจำนวนข้อเป็น 11 ข้อ โดยระบุว่าประกาศแนวทางนี้เพื่อแสดงจุดยืนว่าหลังซื้อ Activision-Blizzard แล้วจะยังเปิดกว้างต่อไป
- นักพัฒนาทุกรายมีสิทธิใช้งานสโตร์ ตราบเท่าที่ผ่านมาตรฐานด้านคุณภาพและความปลอดภัย ซึ่งเป็นมาตรฐานที่สมเหตุสมผลและโปร่งใส (reasonable and transparent standards for quality and safety)
- ไมโครซอฟท์จะคุ้มครองลูกค้าจากการใช้งานสโตร์ โดยการันตีว่านักพัฒนาผ่านมาตรฐานความปลอดภัย
- ไมโครซอฟท์จะเคารพความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ให้ลูกค้าสามารถจัดการข้อมูลของตัวเองได้
- ไมโครซอฟท์จะปฏิบัติกับแอพของตัวเอง ด้วยมาตรฐานเดียวกันกับแอพของคู่แข่ง
- ไมโครซอฟท์จะไม่ใช้ประโยชน์จากข้อมูลบนสโตร์ เพื่อแข่งขันกับแอพของนักพัฒนารายอื่น
- ไมโครซอฟท์จะปฏิบัติกับแอพบนโสตร์อย่างเท่าเทียมกัน ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่จัดอันดับแอพของไมโครซอฟท์ขึ้นก่อนคู่แข่งโดยไม่สมเหตุสมผล
- ไมโครซอฟท์จะโปร่งใสในเรื่องเกณฑ์การโปรโมทและการตลาด ใช้เกณฑ์นี้ทั่วถึงเท่าเทียมกัน
- ไมโครซอฟท์จะไม่บังคับนักพัฒนาใช้ระบบจ่ายเงินของบริษัทเอง เพื่อจ่าย in-app payment
- ไมโครซอฟท์จะไม่บังคับนักพัฒนาแอพ ว่าต้องเงื่อนไขทางธุรกิจที่ดีกว่าสโตร์ยี่ห้ออื่น
- ไมโครซอฟท์จะไม่กลั่นแกล้งนักพัฒนาที่เลือกใช้ระบบจ่ายเงินของบริษัทอืน หรือมีข้อตกลงธุรกิจกับสโตร์ยี่ห้ออื่น
- ไมโครซอฟท์จะไม่ห้ามนักพัฒนาติดต่อกับลูกค้าโดยตรงผ่านช่องทางในแอพ เพื่อนำเสนอบริการหรือราคาที่ต่างไป
นอกจากหลักการ 11 ข้อนี้ ยังมีสัญญาที่ไมโครซอฟท์บอกว่าจะทำอีก 3 ข้อคือ
- จะเปิดให้นักพัฒนา Windows เลือกได้ว่าจะเผยแพร่แอพผ่านสโตร์ไมโครซอฟท์, สโตร์อื่น หรือจะ sideload ติดตั้งไฟล์เองก็ได้
- จะเปิดให้นักพัฒนาเข้าถึง API และการเชื่อมต่อต่างๆ ที่แอพของไมโครซอฟท์ใช้งาน (พูดง่ายๆ คือจะไม่มี API ลับที่ไมโครซอฟท์ใช้ได้คนเดียว)
- จะเปิดให้ผู้ใช้ติดตั้งสโตร์ทางเลือก และติดตั้งแอพทางเลือกพร้อมเปลี่ยนค่าดีฟอลต์ของ Windows ในหมวดที่เหมาะสม
หลักการ 11 ข้อนี้มีผลบังคับใช้กับ Microsoft Store บน Windows และร้านขายเกมเวอร์ชันหน้า (ไม่รวมใช้กับ Xbox Store เวอร์ชันปัจจุบัน)
ไมโครซอฟท์อธิบายว่าธรรมชาติของสโตร์บนพีซี-มือถือ กับสโตร์บนคอนโซลมีความแตกต่างกัน โดยผู้ขายคอนโซลใช้วิธีขายเครื่องขาดทุนเพื่อมาทำกำไรจากการขายเกมแทน ดังนั้น ไมโครซอฟท์จะนำหลักการข้อ 1-7 มาใช้กับ Xbox Store ก่อน และจะค่อยๆ ปรับให้ครบ 11 ข้อในอนาคตต่อไป
ที่มา - Microsoft
