ลดน้ำหนัก ไม่ใช่การอดอาหาร
ลดน้ำหนัก ไม่ใช่การอดอาหาร
การลดน้ำหนักถือเป็นอีกเรื่องที่สาวๆ สมัยนี้ให้ความสำคัญ และส่วนใหญ่แล้วจะลดน้ำหนักกันแบบผิดๆ โดยจะเน้นไปทางด้านอดอาหารซะมากกว่า


ภาพจาก : postjung.com

การลดน้ำหนักถือเป็นอีกเรื่องที่สาวๆ สมัยนี้ให้ความสำคัญ และส่วนใหญ่แล้วจะลดน้ำหนักกันแบบผิดๆ โดยจะเน้นไปทางด้านอดอาหารซะมากกว่า ซึ่งจริงๆ แล้วการลดน้ำหนักเป็นการลดไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกาย ไม่ใช่การลดกล้ามเนื้อ การลดไขมันก็จะต้องเลือกกินอาหารให้เหมาะสม ซึ่งสารอาหารที่ให้พลังงานจะมีอยู่ 3 กลุ่มเท่านั้นคือ ไขมัน แป้ง และโปรตีน

ถ้าหยุดกินอาหารจะทำให้ ร่างกายเสียทั้งโปรตีน (กล้ามเนื้อ) ไขมัน และแป้ง แป้งมีอยู่ในปริมาณจำกัดคือ อยู่ในรูปแบบของไกลโคเจน ที่ตับ 100 กรัม ที่กล้ามเนื้ออีก 400 กรัม หรือรวมแล้วเป็นพลังงานเพียง 2,000 กิโลแคลอรี (500 กรัม x 4) ร่างกายมีไขมันเป็นพลังงานถึงแสนกิโลแคลอรี

  • วิธีการลดน้ำหนักจึงต้องเลือกกินอาหาร เน้นหนัก ไปทางพืช ผัก ถั่ว เห็ด เต้าหู้ ปลา พยายามหลีกเลี่ยงมันสัตว์ หนังสัตว์ เครื่องใน ไข่แดง ของทอด น้ำหวาน ของหวาน กะทิ น้ำตาล เพราะเป็นสารอาหารที่ให้พลังงานมาก แม้แต่ข้าวหรือขนมปัง ถ้ากินมากเกินไป เมื่อถูกดูดซึมเข้าไปในร่างกายก็จะถูกเปลี่ยนไปเป็นไขมัน
  • วิธีการกินอาหารจึงต้องค่อยๆ กิน ดื่มน้ำมากๆ ก่อนหรือระหว่างกินอาหาร เริ่มต้นด้วยการกินซุปผัก 1-2 จาน เคี้ยวช้าๆ พูดคุยบ้าง หลังจากนั้นกินสลัดผักมากๆ อย่าใช้น้ำสลัดที่หวาน กินผักหลายๆ ชนิด เช่น ผักกาดแก้ว มะเขือเทศ หัวหอม เพราะพืช ผัก เป็นแหล่งอาหารที่ดี มีไขมันประเภทดีและมีพลังงานน้อย กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน
ภาพจาก : baterk.com
  • หลังจากนั้นจึงกิน (ถ้ายังไม่อิ่ม) ปลาทะเล (แต่พยายามหลีกเลี่ยงไข่ปลา) พยายามกินปลาที่ต้ม นึ่ง ลวก แทนที่จะทอด ถ้าเบื่อปลา จะเปลี่ยนเป็นเนื้อสัตว์อื่นก็ต้องเลือกไก่ที่เอาหนังออก (หนังมีไขมันมาก)
  • คนที่ชอบกินข้าวก็อาจกินข้าวได้บ้าง (1 จาน) กับปลาหรือไก่ ควรค่อยๆ เคี้ยว ค่อยๆ กิน กินไปพูดคุยไป ดื่ม น้ำไป ที่แนะนำให้ทำเช่นนี้เพราะร่างกายมนุษย์ก็แปลก กว่าจะรู้ตัวว่าอิ่มจะต้องใช้เวลาประมาณ 20 นาที ด้วยเหตุนี้เองถ้ารีบกินเร็วไป จะกินได้มากภายใน 20 นาที ก่อนที่จะรู้ตัวว่าอิ่ม แต่ถ้าค่อยๆ กินจะพบว่าภายใน 20 นาทีเรายังไม่ค่อยได้กินอะไรมากปรากฏว่าอิ่มแล้ว
  • หลังอาหารไม่น่าจะกินของหวาน ถ้าจะกินของหวานให้เลือกกินผลไม้ที่ไม่หวานจัด การกินอาหารแต่ละวันจะต้องแบ่งออกเป็น 3 มื้อ แทนที่จะกินมื้อเดียว จะช่วยทำให้ร่างกายมีน้ำหนักเบากว่า เพราะการกินอาหารแต่ละมื้อร่างกายใช้พลังงานเผาผลาญ ดูดซึมอาหารมาก นั่นคือ มื้อเช้าร้อยละ 25 ของพลังงานทั้งหมดที่จะกินต่อวัน มื้อกลางวันร้อยละ 50 และมื้อเย็นร้อยละ 25 (อย่างน้อย 3-4 ชั่วโมงก่อนนอน) และพยายามออกกำลังกายภายใน 2 ชั่วโมงก่อนอาหารมื้อเย็น
ภาพจาก : sanook.com

การคุมอาหารอย่างเดียวพบว่าลดน้ำหนักได้ยาก แต่ถ้าออกกำลังกายด้วยจะสามารถช่วยทำให้ลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น การออกกำลังกายจะช่วยป้องกันการสูญเสียกล้ามเนื้อ และยังช่วยทำให้ร่างกายมีกล้ามเนื้อมากขึ้นกว่าเก่าด้วย ฉะนั้นควรคุมอาหารควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย ถ้าออกกำลังกายโดยไม่คุมอาหาร ออกกำลังกาย เท่าไหร่ก็จะไม่สามารถลดน้ำหนักได้ เพราะขนมปัง 1 แผ่น หรือไข่ไก่ 1 ฟอง จะให้พลังงาน 100 กิโลแคลอรี ซึ่งถ้าร่างกายจะเผาผลาญ 100 กิโลแคลอรี เราจะต้องเดินหรือวิ่ง 1 ไมล์!

ฉะนั้น ถ้ากินเต็มที่อาจจะต้องวิ่งถึง 20 ไมล์ เพื่อที่จะเผาผลาญพลังงานที่กินหรือดื่มเข้าไปจากการกินอาหารเพียงมื้อเดียว! พยายามลดน้ำหนักตัวเพียงครึ่งถึง 1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ และชั่งน้ำหนักทุกวันในเวลาเดียวกัน เช่น ชั่งช่วงเช้าหลังเข้าห้องน้ำ เพื่อที่จะดูว่าน้ำหนักไม่เพิ่มหรือลดเกินไป

ถึงแม้ฮิปโพเครตีสบิดาของวงการแพทย์ชาวกรีกได้กล่าวไว้หลายพันปีแล้ว แต่ยังเป็นคำกล่าวที่ยังเป็นความจริงอยู่จนถึงทุกวันนี้ และเป็นการแนะนำที่ดีที่สุด ถ้าทุกๆ คนทำตามนี้ได้จะป้องกัน ลดการเกิดโรคต่างๆ ได้มากมาย เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ สมอง ความดันเลือดสูง เบาหวาน มะเร็ง กระดูกพรุน อ้วน และภาวะแทรกซ้อนต่างๆ อาจจะตามมา

ขอขอบคุณ ที่มา : นิตยสาร หมอชาวบ้าน 



ปฏิกิริยาของคุณ?