10 ขั้นตอนลดน้ำหนักแบบไม่เครียด
10 ขั้นตอนลดน้ำหนักแบบไม่เครียด
ความเครียดนั้นสามารถเกิดได้กับทุกคน ยิ่งสาวๆ ที่กำลังไดเอทด้วยแล้ว เริ่มไดเอททีไรความเครียดมาเยือนทุกที


ความเครียดนั้นสามารถเกิดได้กับทุกคน ยิ่งสาวๆ ที่กำลังไดเอทด้วยแล้ว เริ่มไดเอททีไรความเครียดมาเยือนทุกที วันนี้เรามีวิธีการคลายเครียดจากการไดเอทมาฝากกันค่ะ นอกจากจะช่วยให้สุขภาพดีไม่เครียดแล้วยังช่วยให้การไดเอทประสบความสำเร็จได้อีกด้วย

1. ตั้งเป้าหมายไว้ที่ "ความรู้สึกดี ๆ" ในแผนการตั้งใจกินให้ดีต่อสุขภาพนั้น ความทรงจำดี ๆ จะช่วยให้คุณทำได้สำเร็จมากกว่าความคิดว่าคุณถูกบังคับให้กิน

How to : ก่อนที่คุณจะกินขนมหวาน ลองถามตัวเองสิว่า "ถ้ากินเข้าไปแล้วฉันจะรู้สึกยังไงในอีกชั่วโมงหนึ่ง" ยกตัวอย่างเช่น หลังจากกินช็อกโกแลตบาร์แท่งนั้น คุณอาจจะรู้สึกหิวน้ำ หงุดหงิด อ่อนเพลีย แต่ในทางกลับกัน การไปเข้ายิมเพียง 15 นาที จะทำให้คุณรู้สึกดีไปทั้งวัน

2. หลักหายใจแบบง่าย ๆ คุณไม่จำเป็นต้องนั่งสมาธิเป็นชั่วโมงในเมื่อแบบฝึกหัดหายใจเพียง 5 นาที ทุก ๆ เช้าจะช่วยให้คุณสงบพร้อมรับวันใหม่

How to : นอนบนพื้น ใช้หมอนใบเล็ก ๆ รองศีรษะ และใช้ผ้าห่มคลุมลำตัวเอาไว้ หายใจเช้า - ออกลึก ๆ คอยสังเกตการหายใจจนลมหายใจเป็นธรรมชาติ ช้าลง ยาวขึ้น จะช่วยให้ผ่อนคลาย

3. เดินคลายเครียด การเดินจะช่วยควบคุมฮอร์โมนความเครียดโดยไม่เพิ่มปริมาณฮอร์โมนดังกล่าว (ในขณะที่การออกกำลังซ้ำ ๆ อย่างวิ่งจะทำให้เกิดฮอร์โมนเครียด) นอกจากนี้ ยังช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อไหล่ที่เขม็งเกลียว และช่วยให้การหายใจเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากในขณะที่เครียดหลายคนอาจหยุดหายใจ

How to : เดินกลางแจ้ง (แต่ไม่ใช่กลางแดด) อย่างน้อย 30 - 45 นาทีต่อวัน หรือใช้เครื่องนับก้าวเดินให้ได้ 8,000 - 15,000 ก้าวต่อวัน

4. พักผ่อนอย่างมีคุณภาพ เราไม่สามารถเลี่ยงเสียงลูกร้อง หรือเสียงเจ้านายบ่นได้ แต่สิ่งที่เราทำได้คือการพักระหว่างช่วงเครียด เพื่อช่วยลดปัญหาสุขภาพกายและจิตที่เกิดขึ้นจากความเครียดสะสม

How to : การพักผ่อนไม่ได้หมายถึงการนอนเพียงอย่างเดียว (แม้ว่าการนอนจะช่วยได้มาก) แต่เราต้องการพักผ่อนอย่างแอ็กทีฟ เช่น ว่ายน้ำ เดินในธรรมชาติ เล่นโยคะ หรือแม้แต่เข้าสังคม และคุยกับเพื่อน เป็นต้น

Tip : เพิ่มแมกนีเซียมกันเถอะ หากความเครียดทำให้คุณนอนไม่หลับ การกินแมกนีเซียมในมื้อเย็น 300 - 400 มิลลิกรัม จะช่วยให้คุณนอนหลับสบายขึ้น ซึ่งคุณสามารถกินได้จากผักใบเขียว และอัลมอนด์

5. กินโปรตีนกับสังกะสี โปรตีนช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อให้พลังงาน ชดเชยการสูญเสียไขมัน ทำให้คุณอิ่ม และมีกรดอะมิโนจำเป็นที่ช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ได้นาน ดังนั้น อารมณ์แปรปรวนที่เกิดขึ้นอยู่เนือง ๆ ก็จะน้อยลงด้วย

How to : ในแต่ละมื้อกินอาหารต่อไปนี้ อย่างน้อยหนึ่งหน่วยบริโภค ได้แก่ ไข่ ถั่ว หรือเมล็ดพืช เนื้อไขมันต่ำ หรือไก่ (ถ้าจะให้ดีควรเป็นออร์แกนิก) และปลา

Tip : เลี่ยงปรอทจากปลา ปรอทจะส่งผลต่อต่อมอะดรีนัลซึ่งผลิตฮอร์โมนแห่งความเครียดและธัยรอยด์ ทำให้เกิดอาการ เช่น ปวดศีรษะและนอนไม่หลับ ลองใส่ลูกผักชี กระเทียม และกะหล่ำปลี เพื่อช่วยล้างพิษปรอท และเลี่ยงปลาทูน่า ปลาดาบ ปลามาร์ลิน

กินโอเมก้า - 3 ให้มากขึ้น การกินอาหารที่มีโอเมก้า-3 ต่ำ (พบในปลาไขมันสูงเป็นหลัก) แต่มีโอเมก้า-6 สูง (พบในน้ำมันที่ใช้ผลิตอาหารเชิงพาณิชย์และอาหารแปรรูป) อาจจะกระตุ้นอาการอักเสบบนผิวและข้อต่อ อย่างเช่น สะเก็ดเงิน หรือปวดข้อ ที่อาจเกิดเมื่อความเครียดพุ่งขึ้นสูง และยังทำให้การลดน้ำหนักเป็นเรื่องยาก ในทางกลับกัน การกินโอเมก้า - 3 วันละ 2,000 - 4,000 มิลลิกรัม อาจช่วยคุณได้

6. หยุดโหยของหวาน ความเครียดอาจจะทำให้เกิดวัฏจักรของการอย่างของหวานกับคาร์โบไฮเดรตขัดสี ที่จะนำไปสู่น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

How to : เพื่อลดน้ำตาล ระวังของหวาน ซึ่งมีส่วนผสมของน้ำตาลที่ลงท้ายด้วย "ose" ควรดูฉลาก และจำไว้ว่าน้ำเชื่อมข้าวโพด มอลโตเด็กซ์ตริน กากน้ำตาล และมอลต์บาร์เลย์ ก็ถือเป็นน้ำตาลเหมือนกัน

Tip : เสพหวานธรรมชาติ น้ำตาลทำให้มีการผลิต "เบต้า - เอ็นดอร์ฟิน" ซึ่งเป็นสารกลุ่มฝิ่น (Opioid) ตามธรรมชาติในสมอง การศึกษาชี้ว่าความเครียดสะสมจะทำให้เราโหยอาหารมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ก็มีกิจกรรมอื่น ๆ ที่ให้ผลเดียวกันโดยไม่ต้องกิน เช่น หัวเราะ ฟังเพลงที่ชอบ ใช้เวลากับคนที่รัก และมีเพศสัมพันธ์

7. อย่ากลัวไขมัน ไขมันที่ดีในทุกมื้อจะช่วยให้คุณอิ่มเช่นเดียวกับช่วยให้คุณหยุดโหยของหวาน

How to : คุณสามารถพบไขมันที่ดีได้ในอะโวคาโด อัลมอนด์ และถั่วอื่น ๆ เมล็ดพืช มะกอก เมล็ดแฟล็กซ์ เมล็ดงา น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิ้น

8. ฟิตเนสอย่างไร "ยิ่งน้อยยิ่งดี" การนับชั่วโมงบนเครื่องออกกำลังอาจกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนแห่งความเครียดจนทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น แต่การศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้ชี้ว่า การออกกำลังในระยะสั้น ๆ จะช่วยกระตุ้นเมตาบอลิซึ่มของคุณได้อย่างน้อยแปดชั่วโมงหลังออกกำลัง

How to : ผลที่ดีที่สุดมาจากการออกกำลังแบบใช้แรงต้าน หรือยกน้ำหนัก (Resistance Training) เพียง 15 นาที โดยการใช้กล้ามเนื้อหลาย ๆ มัดในการเคลื่อนไหว เช่น ท่าสควอต ท่าลังก์ หรืออินเทอร์วัลเทรนนิ่งที่สลับระดับการออกกำลัง เช่น วิ่งเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้หนึ่งนาทีสลับกับวิ่งช้า ๆ อีก 15 นาที 3 ครั้งต่อสัปดาห์

9. มองหาความเครียดดี ๆ ความเครียดที่ดีมีอยู่จริง และมันจะทำให้คุณแข็งแกร่งขึ้น โดยการประสบกับความเครียดเล็กน้อยจะทำให้ร่างกายมีโปรแกรมตอบสนอง

How to : ความเครียดที่ดีจะอยู่ในการควบคุมของเรา มีจุดเริ่มต้นกับจุดจบชัดเจนและทำให้สมองฟื้นฟู เช่น การเล่นเกมบริหารสมอง แต่ในทางตรงกันข้าม ความเครียดที่ควบคุมไม่ได้ อย่างเช่น ปัญหาการเงิน การงาน หรือความรัก จะให้ผลกลับกัน

10. กลับคืนสู่ไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพ ครีมบูเล่ (ขนมหวานของฝรั่งเศส) ที่คุณเพิ่งกินเข้าไปนั้นอาจจะไม่ใช่ปัญหาอะไร ถ้าคุณกลับไปสู่ไลฟ์สไตล์ปลอดเครียดเหมือนเดิม

How to : ทิ้งทัศนคติว่า "ฉันต้องเลิกกินสิ่งนี้" ซึ่งจะทำให้เครียดมากขึ้นและนำไปสู่การสวาปาม ถ้าคุณออกกำลังบ่อย ๆ กินอาหารที่มีประโยชน์ และสร้างมาตรการป้องกันความเครียดทุกวัน คุณก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอาหาร หรือแอลกอฮอล์ด้วยซ้ำ

Tip : ดื่มอย่างฉลาด

สปาร์กลิ้งและไวน์ขาวมีน้ำตาลน้อย และเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยู่ในอารมณ์อยากฉลอง แต่ถ้าคุณชอบไวน์แดงก็จงเลือกที่มีสีเข้ม และมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่มาก

ขอบคุณ ที่มา : นิตยสาร Lisa ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต



ปฏิกิริยาของคุณ?