เราเชื่อว่า ไม่ว่าจะเป็นคุณผู้หญิง หรือคุณผู้ชายก็ล้วนอยากจะมีผิวพรรณที่ดี เปล่งประกาย ดูกระจ่างใส และอ่อนกว่าวัยกันทั้งนั้น แต่แน่ล่ะว่า เราไม่สามารถหยุดอายุที่เพิ่มขึ้นในทุกๆ ปีได้ และสิ่งหนึ่งที่แทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยก็คือ ผิวพรรณเริ่มโรยรา แต่วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ ในการโกงอายุผิวมาฝากเพื่อนๆ กันเช่นเคยค่ะ ซึ่งรับรองเลยว่าแต่ละขั้นตอนนั้นไม่ยากอย่างที่คิดแน่นอน
1. เลือกคลีนเซอร์ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
การทำความสะอาดผิวเป็นขั้นตอนสำคัญในการขจัดสิ่งสกปรกบนใบหน้าจากเครื่องสำอาง ครีมบำรุงที่ใช้ในตลอดทั้งวันและยังรวมไปถึงมลภาวะ ฝุ่น ควัน และแบคทีเรียต่างๆ ที่เข้ามาสัมผัสกับผิวหน้าของเราโดยตรง ดังนั้นแล้วเพื่อนๆ จึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ปราศจากสารเคมี เพื่อช่วยบำรุงและสร้างเกราะป้องกันให้กับผิวจากการถูกทำลาย และการสูญเสียความชุ่มชื้น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีค่า pH สูง อาจทำให้ผิวของเราระคายเคือง และแห้งกร้านได้ง่าย นอกจากนี้ เพื่อนๆ ยังควรหลีกเลี่ยงส่วนผสมของ sodium lauryl sulfate ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้ผิวอ่อนแอได้ง่าย หากค่า pH ภายในผิวของเราอยู่ในปริมาณที่สมดุล เพื่อนๆ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ toner เพื่อปรับค่าความเป็นกรดด่างบนผิว ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกเยอะเลยทีเดียว
2. ขัดผิวเพิ่มความกระจ่างใส
เมื่ออายุมากขึ้นประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิวใหม่ก็เสื่อมถอยและช้าลงเป็นเรื่องปกติ จึงไม่แปลกที่ผิวพรรณของเราจะดูหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส ขาดความชุ่มชื้น และแห้งกร้าน เป็นต้น การขัดหรือสครับผิวจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยผิวของเรากำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปได้ แต่อย่างไรก็ตามเพื่อนๆ ควรใส่ใจ และพิถีพิถันในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่จะนำมาใช้ ทั้งผลิตภัณฑ์ขัดผิวแบบ physical (ออกฤทธิ์ภายนอกผิว) และ chemical (ออกฤทธิ์ทางเคมี) เพื่อนๆ ผู้อ่านควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ชนิด physical อย่าง สครับน้ำตาล หรือคลีนเซอร์ที่มีเม็ดบีดส์เป็นส่วนผสม เพราะจะทำให้ผิวแห้งกร้านและอ่อนแอกว่าปกติ เพื่อนๆ สามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบเป็น glycolic acid และ lactic acid ซึ่งมีส่วนช่วยให้ผิวชุ่มชื้น และดูกระจ่างใส
3. เตรียมผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้ถูกวิธี
การมีผิวพรรณที่อ่อนกว่าวัยและดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอมีตัวช่วยมากมาย ทั้งอาหารการกิน พักผ่อนให้เพียงพอและรวมไปถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่สามารถบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก เช่น เซรัม (serum) ที่มีหลากหลายชนิดให้เลือกใช้ สำหรับเซรัมกลุ่มช่วยชะลออายุของผิว จะมีส่วนผสมที่ชื่อว่า retinoids และ vitamin C ซึ่งมีประสิทธิภาพช่วยสร้างคอลลาเจนให้กับผิว และยังเปรียบเสมือนสารต่อต้านอนุมูลอิสระได้อีกด้วย หากเพื่อนๆ ต้องการให้ผลิตภัณฑ์เซรัมได้ประสิทธิภาพดีนั้น หลังจากเทออกจากบรรจุภัณฑ์ ควรใช้วิธีการตบเนื้อเซรัมเบาๆ แล้วจึงทาลงผิวหน้า และผิวกาย ซึ่งจะได้ผลกว่าการนวดลงไปที่เนื้อผลิตภัณฑ์เหมือนครีมทั่วๆ ไป
4. เติมความชุ่มชื้นให้กับผิว
เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ซีบัม (sebum) หรือส่วนประกอบของไขมันที่สร้างขึ้นโดยต่อมไขมันใต้ผิวจะผลิตออกมาได้น้อยลง ซึ่งเจ้าซีบัมตัวนี้จะมีหน้าที่สร้างความชุ่มชื้น และยืดหยุ่นให้กับผิว ทำให้ผิวไม่แห้งกร้านและกักเก็บน้ำในร่างกาย ฉะนั้นราจึงควรหาสกินแคร์ดีๆ ที่สามารถช่วยทดแทนความชุ่มชื้นที่เสียไปได้โดยมีเคล็ดลับในการเลือกสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ glycerine และ hyaluronic acid จะช่วยให้ผิวของเรากลับมาชุ่มชื้นได้ดียิ่งขึ้น
5. กันแดดเป็นสิ่งที่ห้ามลืม
เป็นที่รู้ๆ กันว่าแสงแดดในบ้านเรานั้นร้อนแรงขึ้นทุกวัน ฉะนั้นสิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ ครีมกันแดดทั้งสำหรับผิวหน้า และผิวกายนั่นเอง ทำไมถึงขาดไม่ได้? เพราะกันแดดเปรียบเสมือนเกราะป้องกันผิวชั้นดีที่จะช่วยบำรุงให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์ ไม่แห้งกร้าน หากเพื่อนๆ ไม่ทาครีมกันแดดเป็นประจำ การสร้างคอลลาเจนในผิวจะลดลง ทำให้ผิวบอบบาง เกิดริ้วรอยได้ง่าย อีกทั้งยังทำให้เม็ดสีผิวของเราเข้มขึ้น อันเป็นสาเหตุของผิวที่คล้ำขึ้นด้วยนั่นเอง
6. ความอ่อนโยนเป็นหัวใจหลักของผิว
ผิวพรรณของเราเป็นอีกส่วนที่บอบบางและต้องการความอ่อนโยนไม่แพ้ส่วนอื่นๆ ในร่างกาย ประกอบกับเมื่ออายุมากขึ้น ผิวพรรณก็เปราะบางมากยิ่งขึ้น เมื่อได้รับการกระทบกระเทือนก็จะเกิดริ้วรอยได้ง่าย ทั้งการถูทำความสะอาดใบหน้าและผิวที่แรงเกินไป หรือการนอนบนหมอนที่ค่อนข้างแข็งทำให้เกิดแรงกดทับได้มากกว่าปกติ หากอยากให้ผิวของเราดูอ่อนเยาว์เสมอก็อย่าลืมเรื่องความอ่อนโยนกันนะคะ
การมีผิวพรรณที่ดีเป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินความสามารถของเรา เพียงแต่ต้องอาศัยความอ่อนโยน และความสม่ำเสมอ นอกจากนี้เพื่อนๆ อย่าลืมทานอาหารที่มีประโยชน์และพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้ผิวเปล่งประกาย มีสุขภาพที่ดีจากภายในสู่ภายนอกกันนะคะ
ที่มา davidwolfe.com ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
