ซูชิแบบไหนทานแล้วไม่อ้วน
ซูชิแบบไหนทานแล้วไม่อ้วน
ซูชิถือเป็นอาหารญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะมีหน้าให้เลือกมากมาย และแต่ละหน้าก็มีความอร่อยที่แตกต่างกันออกไป แล้วแคลอรีละแต่ละหน้านั้นเท่าไหร่กันบ้าง มาดูกันเลย


ภาพจาก pobpad.com

ซูชิแบบไหนทานแล้วไม่อ้วน

ซูชิถือเป็นอาหารญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะมีหน้าให้เลือกมากมาย และแต่ละหน้าก็มีความอร่อยที่แตกต่างกันออกไป แล้วแคลอรีละแต่ละหน้านั้นเท่าไหร่กันบ้าง มาดูกันเลย

หน้าปูอัด 11 Kcal จริงๆ แล้ว "ปูอัด" ที่เราเรียกกันนั้น ทำมาจากเนื้อปลาบดผสมเครื่องปรุงจำพวกแป้ง น้ำตาล เกลือ ผงชูรส และแต่งกลิ่นให้คล้ายปู อัดเป็นแท่งยาวๆ แล้วตกแต่งสี ถึงจะให้พลังงานน้อยและพอมีคุณค่าทางอาหารจากเนื้อปลาบ้าง แต่ก็ไม่ดีเท่ากับการกินปลา

หน้าปลาทูน่า 19-52 Kcal ปลาทูน่าเป็นปลาที่มีไขมันสูงและอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3 ซึ่งจะให้พลังงานมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับว่าส่วนที่นำมาทำซูชินั้นมีปริมาณไขมันแทรกอยู่เท่าไหร่ โดยหากเป็นส่วนที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า "โอโทโระ" ซึ่งเป็นเนื้อติดมันตรงส่วนท้องจะให้พลังงานสูงที่สุด

หน้าปลาไหล 47 Kcal ปลาไหลบนหน้าซูชิจะเป็นปลาไหลทะเลซึ่งเป็นปลาที่มีไขมันสูงอยู่แล้ว เมื่อนำมาย่างหรือต้มซอสหวานแล้วแต่สูตรของแต่ละร้าน น้ำมันปลาและน้ำตาลในซอสนี่แหละคือที่มาของพลังงานที่พุ่งสูงปรี๊ด แม้จะให้พลังงานสูง แต่ปลาไหลก็อุดมไปด้วยโอเมก้า-3 คอลลาเจน วิตามินและแร่ธาตุอีกหลายชนิด

หน้าปลาหมึก 15 Kcal แม้ปลาหมึกจะมีคอเลสเตอรอลสูงแต่บนหน้าซูชิมีเนื้อปลาหมึกเพียง 15 กรัมเท่านั้น คอเลสเตอรอลจึงไม่มากเท่าไหร่ แถมเนื้อปลาหมึกยังไม่มีไขมัน แต่มีโปรตีน วิตามินบี ธาตุเหล็ก เซเลเนียม และกรดอะมิโนที่บำรุงเส้นเลือดหัวใจ รวมไปถึงสายตาด้วย

ภาพจาก choaleng.com

หน้าไข่หวาน 30 Kcal ไข่เจียวแบบญี่ปุ่นแผ่นประมาณ 20 กรัม ที่อยู่บนหน้าซูชิจะให้พลังงานถึง 30 กิโลแคลอรีไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะใส่ทั้งน้ำตาลและมิริน (เหล้าหวานญี่ปุ่น) และยังอมน้ำมันจากการเจียวไข่ไว้อีกด้วย

หน้าปลาแซลมอน 21 Kcal แม้ปลาแซลมอนจะให้พลังงานสูงกว่าหน้าอื่นๆ อีกหลายหน้า แต่ก็เป็นพลังงานจากไขมันปลาซึ่งอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่มีประโยชน์มากมาย เช่น ช่วยลดคอเรสเตอรอลและไขมันที่สะสมตามผนังหลอดเลือด ลดความดันโลหิต และยังลดความเสี่ยงมะเร็งบางชนิดได้อีกด้วย

ทำไมกินซูชิถึงไม่ผอม หน้าซูชิแต่ละหน้าไม่ได้ให้พลังงานสูงจนน่ากลัวเลยสักนิด แต่เหตุผลที่ซูชิไม่ถือเป็นอาหารเฮลตี้ ดีต่อการลดน้ำหนัก ก็เพราะส่วนประกอบอื่นๆ นั่นเอง โดยเฉพาะข้าวขาวที่มีมากถึงประมาณ คำละ 20 กรัม ให้พลังงานประมาณ 33.6 Kcal และข้าวนี้ยังมีการปรุงรสด้วยน้ำตาลประมาณ 2.8 Kcal กับน้ำส้มสายชูอีก 0.5 Kcal ดังนั้น รวมแล้วเฉพาะข้าวที่เป็นฐานของซูชิก็ให้พลังงานถึงคำละ 36.9 Kcal แล้ว เมื่อรวมกับพลังงานจากหน้าอีก แคลอรีก็ยิ่งสูง

ที่สำคัญ...คำเดียวไม่เคยพอ!

ขอขอบคุณ ที่มา : thaiza.com 



ปฏิกิริยาของคุณ?