ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบริโภค กินเค็มพอดี ต้องมีไอโอดีน
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบริโภค กินเค็มพอดี ต้องมีไอโอดีน
บริโภคโซเดียมไม่ควรเกิน 2,000 มิลลิกรัม ต่อวัน เทียบเท่ากับเกลือที่ใช้ปรุงอาหารไม่เกิน 1 ช้อนชา หรือน้ำปลาไม่เกิน 4 ช้อนชาต่อวัน


รณรงค์วันไอโอดีนแห่งชาติ กินเค็มพอดี ต้องมีไอโอดีน  เพื่อให้ได้รับสารไอโอดีนเพียงพอ อย่างไรก็ตาม การบริโภคโซเดียมไม่ควรเกิน 2,000 มิลลิกรัม ต่อวัน เพื่อสุขภาพที่ดีห่างไกลโรค

ที่กรมอนามัย ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลัง เป็นประธานเปิดงานรณรงค์วันไอโอดีนแห่งชาติ “กินเค็มพอดี ต้องมีไอโอดีน ” และประกาศเจตนารมณ์เนื่องในวันไอโอดีนแห่งชาติ ร่วมกับภาคีเครือข่าย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมการปกครองกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เครือข่ายลดบริโภคเค็ม สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย สมาคมเชฟแห่งประเทศไทย สมาคมร้านอาหารไทยและสตรีทฟู้ด สมาคมการค้าธุรกิจ ณ กรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุข ว่า วันที่ 25 มิถุนายนของทุกปี เป็นวันไอโอดีนแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุขโดยกรมอนามัยได้ดำเนินการ

ดร.สาธิต กล่าวต่อว่า เพื่อส่งเสริมป้องกันโรคขาดสารไอโอดีนอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้รณรงค์ให้ประชาชนมีความรู้ และเกิดความตระหนักเพื่อนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบริโภคที่เหมาะสม ภายใต้แนวคิด “กินเค็มพอดี ต้องมีไอโอดีน”ด้วยการรณรงค์การใช้เกลือ และผลิตภัณฑ์ปรุงรสเสริมไอโอดีนอย่างเพียงพอ บริโภคโซเดียมไม่ควรเกิน 2,000 มิลลิกรัม ต่อวัน เทียบเท่ากับเกลือที่ใช้ปรุงอาหารไม่เกิน 1 ช้อนชา หรือน้ำปลาไม่เกิน 4 ช้อนชาต่อวัน ซึ่งจากผลสำรวจปี 2564 พบว่า คนไทยบริโภคโซเดียมสูงถึง 3,636 มิลลิกรัมต่อวัน สูงกว่าค่าที่องค์การอนามัยโลกแนะนำเกือบ 2 เท่า อีกทั้งยังมีพฤติกรรมการเติมเกลือ น้ำปลา หรือซอสปรุงรสในอาหาร หรือใส่ลงบนอาหารโดยตรงเพื่อเพิ่มรสชาติ ทำให้คนไทยเสี่ยงได้รับปริมาณโซเดียมเกินกว่าความต้องการในแต่ละวัน

“กระทรวงสาธารณสุขจึงต้องเร่งสื่อสาร สร้างความรอบรู้ให้คนไทยมีความเข้าใจที่ถูกต้องในการเลือกบริโภคเกลือ และผลิตภัณฑ์ปรุงรสเสริมไอโอดีนที่เหมาะสม เพื่อให้ได้รับสารไอโอดีนเพียงพอตามที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานคำชี้แนะในการประชุมคณะกรรมการควบคุมและป้องกันโรคขาดสารไอโอดีนแห่งชาติครั้งที่ 1/2565 ที่ผ่านมา พร้อมทั้งขับเคลื่อนให้เกิดชุมชน/หมู่บ้านไอโอดีนครอบคลุมทั่วประเทศ ภายในปี 2570 โดยการขับเคลื่อนผ่านแพลทฟอร์มไอโอดีน ส่งผลให้ปัจจุบันมีชุมชน/หมู่บ้านไอโอดีน จำนวนทั้งสิ้น 23,911 แห่ง แบ่งเป็นระดับเหรียญทอง จำนวน 8,583 แห่ง ระดับเหรียญเงิน จำนวน 4,819 แห่งและระดับเหรียญทองแดง จำนวน 10,509 แห่ง” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าว

ทางด้านนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยได้ดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการค้านการควบคุมและป้องกันโรคขาดสารไอโอดีนแห่งชาติ ปี2565 – 2570 ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ของโรคขาดสารไอโอดีนในภาพรวมของประเทศไทยดีขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ มีค่ามัธยฐานไอโอดีนในปัสสาวะภาพรวมของประเทศปี 2564 เท่ากับ 155 ไมโครกรัมต่อลิตรบรรลุตามค่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ สำหรับความครอบคลุมการใช้เกลือเสริมไอโอดีนในครัวเรือนดีขึ้นจากปี 2563 ที่มีการใช้ร้อยละ 80.2 เพิ่มเป็นร้อยละ 84.2 ในปี 2564 แต่ยังไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่กำหนดไว้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90  จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ และให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องส่งเสริมให้ประช าชนปรุงป ระกอบอาหารด้วยผลิตภัณฑ์เสริมไอโอดีน เพื่อสุขภาพที่ดีของประชาชน

ที่มา : เว็บไซต์เดลินิวส์ ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต



ปฏิกิริยาของคุณ?