มุมมอง
บัวตอง สรรพคุณและประโยชน์
บัวตอง ชื่อสามัญ Mexican sunflower, Mexican sunflower weed
บัวตอง ชื่อวิทยาศาสตร์ Tithonia diversifolia (Hemsl.) A.Gray จัดอยู่ในวงศ์ทานตะวัน (ASTERACEAE หรือ COMPOSITAE)
สมุนไพรบัวตอง มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ดาวเรืองญี่ปุ่น ทานตะวันหนู เบญจมาศน้ำ (กรุงเทพฯ), บัวตอง (ทั่วไป), พอมื่อนื้อ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) เป็นต้น
ลักษณะของบัวตอง
ต้นบัวตอง มีถิ่นกำเนิดในประเทศเม็กซิโกและอเมริกากลาง จัดเป็นไม้พุ่มขนาดเล็กมีอายุได้หลายปี มีความสูงของต้นได้ถึง 4 เมตร มีไหลอยู่ใต้ดิน ทุกส่วนของต้นมีขนสีขาว ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ดและไหล มักขึ้นในพื้นที่ที่มีอากาศเย็น ชอบแสงแดดจัด และจะออกดอกสวยงามที่สุดบนดอยที่สูงกว่า 800 เมตรขึ้นไป ในประเทศไทยพบกระจายอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวทางภาคเหนือ โดยเฉพาะทุ่งบัวตองที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน อีกทั้งยังจัดเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอนอีกด้วยครับ[1],
ใบบัวตอง ใบเป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับ ลักษณะของใบเป็นรูปไข่ รูปไข่แกมขอบขนาน หรือรูปไข่แกมสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ขอบใบจักเป็นฟันเลื่อย ใบมีขนาดกว้างประมาณ 4-25 เซนติเมตรและยาวประมาณ 7-30 เซนติเมตร แผ่นใบบาง ผิวใบด้านบนเป็นสีเขียวเข้ม ส่วนท้องใบเป็นสีเขียวแกมเทา มีขนสั้นและต่อมเล็กทั้งสองด้าน
ดอกบัวตอง ออกดอกเป็นช่อกระจุกที่ปลายกิ่ง ริ้วประดับมีประมาณ 3-4 ชั้นเรียงกันเป็นรูประฆัง ดอกมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 6-14 เซนติเมตร ดอกเป็นสีเหลืองสด ดอกวงนอกเป็นรูปช้อนหรือเป็นรูปรางน้ำขอบขนาน ปลายจัก ยาวประมาณ 3-5 เซนติเมตร กลีบมีประมาณ 12-15 กลีบ เป็นหมัน ส่วนดอกวงในมีขนาดเล็ก โคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็นแฉกแหลม ดอกวงในเป็นดอกแบบสมบูรณ์เพศและมีจำนวนมาก กลีบดอกเป็นหลอดยาวประมาณ 0.7-1 เซนติเมตร ดอกมีเกสรเพศผู้ 5 อัน อับละอองเรณูเป็นสีดำ ที่ปลายสีเหลือง และจะออกดอกในช่วงฤดูหนาวหรือในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม
ผลบัวตอง ผลเป็นผลแห้ง ลักษณะเป็นรูปขอบขนาน ปลายและโคนผลสอบ เมล็ดล่อน ไม่แตก ผนังผลแยกออกจากกัน ผลมีขนาดยาวประมาณ 0.5-0.8 เซนติเมตร
สรรพคุณและประโยชน์ของบัวตอง
- ใบสดนำมาย่างไฟ ใช้วางบนศีรษะแล้วใช้ผ้าพันแผลไว้ ช่วยแก้อาการปวดศีรษะได้ (ใบ)
- ดอกนำมาใส่แผลและแผลช้ำ (ดอก)
- ยอดอ่อนนำมาเผาแล้วขยี้ใช้ทาผื่นคันที่ขึ้นตามตัว (ยอดอ่อน)
- ใบนำมาต้มกับน้ำรวมกับต้นสาบหมาน (เข้าใจว่าคือต้นสาบหมา) ใช้อาบแก้อาการคัน (ใบ)
- ใช้ปลูกเป็นไม้ประดับตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ โดยเฉพาะทางภาคเหนือที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ดอยแม่อูคอ แต่ตอนนี้สามารถหาชมได้แล้วที่อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ในช่วงหน้าหนาวด้วยครับ
ขอบคุณที่มา : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี , thaihealth (สสส.) , หมอชาวบ้าน
ภาพจาก : thetrippacker