780
มุมมอง
มุมมอง
ผลวิจัยบอกว่าขมิ้นมีสรรพคุณทางยาสูงมาก สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ลดอาการอักเสบ ต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันมะเร็งในตับ รักษาโรคในระบบทางเดินหายใจ
ภาพจาก : bangkokbiznews.com
ผลวิจัยบอกว่าขมิ้นมีสรรพคุณทางยาสูงมาก สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ลดอาการอักเสบ ต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันมะเร็งในตับ รักษาโรคในระบบทางเดินหายใจ ส่วนน้ำมันหอมระเหยของมันก็ช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง ท้องอืดแน่นจุกเสียดได้ดี แพทย์แผนโบราณถึงนิยมใช้ขมิ้นชันเป็นยาสมานแผลในกระเพาะอาหาร ทำความสะอาดลำไส้และรักษาโรคกระเพาะกันไงล่ะ
แต่ตัวยาในขมิ้นชันจะทำงานได้ดีขึ้น ถ้าคุณกินมันตามเวลาที่ระบบต่างๆ ของร่างกายกำลังตื่นตัว
- เวลา 03.00-05.00 น. เป็นเวลาที่ปอดจะขับสารพิษทิ้งไป ถ้าทานขมิ้นชันในตอนนี้ ตัวยาจะเข้าไปบำรุงปอด ป้องกันมะเร็ง ลดอาการภูมิแพ้และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ผิวหนัง
- เวลา 05.00-07.00 น. เป็นเวลาที่ลำไส้ใหญ่บีบตัว การกินขมิ้นชันจะเข้าไปฟื้นฟูปลายประสาทของลำไส้ใหญ่ เหมาะสำหรับคนที่กินยาถ่ายมานานจนลำไส้ใหญ่ไม่ทำงาน ถ้าไม่ได้ยามากระตุ้น หลังจากทานขมิ้นชันติดต่อกันประมาณ 2 สัปดาห์ คุณจะกลับมาขับถ่ายได้เองอีกครั้งโดยไม่ต้องพึ่งยาถ่ายเลย
ภาพจาก : thairath.co.th
- เวลา 07.00-09.00 น. การกินขมิ้นชันในเวลานี้จะลดอาการจุกเสียดในกระเพาะ บำรุงสมอง ป้องกันความจำเสื่อม และยังแก้อาการปวดเข่า สำหรับคนที่เป็นโรคไขข้อเสื่อมได้ด้วย
- เวลา 09.00-11.00 น. เป็นเวลาที่ม้ามกำลังทำงาน ถ้าคุณมีปัญหาเรื่องน้ำเหลืองไม่ดี มีแผลที่ปาก เป็นโรคเบาหวาน ไขข้อเสื่อม การกินขมิ้นชันในเวลานี้จะช่วยบรรเทาอาการทั้งหมดได้
- เวลา 11.00-13.00 น.เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจถ้าทานขมิ้นชัน จะช่วยให้หัวใจแข็งแรงและทำงานได้ดีขึ้น ยกเว้นโรคอกหักที่ขมิ้นชันรักษาให้ไม่ได้นะจ๊ะ
- เวลา 15.00-17.00 น. เป็นเวลาที่กระเพาะปัสสาวะจะทำงาน จึงควรกินขมิ้นชันเพื่อแก้ปัญหาเรื่องตกขาวและหูรูดกระเพาะปัสสาวะไม่แข็งแรง
Tip : ควรเลือกเหง้าที่มีอายุตั้งแต่ 9-12 เดือน เพราะขมิ้นชันที่อายุน้อยเกินไปยังไม่มีสารเคอร์คิวมินซึ่งเป็นตัวยาสำคัญมากพอ
ขอขอบคุณ ที่มา : นิตยสาร Spicy