ภาพจาก : blog.topclinic.in.th
อาหารจำพวกฟาสต์ฟู้ดเนี่ย นอกจากเรื่องความสะดวก รวดเร็วแล้ว ก็มองหาประโยชน์ไม่ค่อยเจอเลยนะคะ แถมยังมีข้อมูลว่ากินเฟรนช์ฟรายส์สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งอีกด้วย วันนี้เราเลยไปค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวมาบอกกันค่ะ
คนไทยในยุคเก่าก่อนนั้นบริโภคข้าว ปลา ผักเป็นอาหารหลัก นำมาปรุงเป็นอาหารหลากหลายทั้งแกงป่า แกงส้ม แกงเลียง ปลาย่าง น้ำพริก ซึ่งถือว่าเป็นเมนูชูสุขภาพชั้นดี แต่เมื่อโลกพัฒนาไปตามเทคโนโลยีต่างๆ วัฒนธรรมการกินแบบตะวันตกก็มาถึง ก่อเกิดอาหารฟาสต์ฟู้ดมากมาย และด้วยรสชาติที่อร่อยทำให้หลายคนติดใจบริโภคอย่างไม่บันยะบันยัง จนทำให้เกิดโรคอ้วนและโรคอื่นๆ ตามมาได้ในที่สุด ทั้งนี้เป็นผลมาจากการใช้ความร้อนสูง ซึ่งก่อให้เกิดสารอะคริลาไมด์ที่ในอเมริกาถือว่าเป็นสารก่อมะเร็งในคน โดยสารอะคริลาไมด์ เกิดขึ้นจากวัตถุดิบและกรรมวิธีในการผลิตอาหารดังกล่าวซึ่งกลไกของการเกิดสารอะคริลาไมด์ในอาหารประเภทแป้งที่ผ่านกระบวนการให้ความร้อนสูงตั้งแต่ 120 องศาขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นการทอดหรืออบ จะทำให้เกิดปฏิกิริยาเมลลาร์ดระหว่างน้ำตาลและกรดอะมิโนที่อยู่ในวัตถุได้
ภาพจาก : matichonacademy.com
ผลิตภัณฑ์ที่เป็นสารประกอบคาร์บอนิลซึ่งปกติแล้วเป็นสารที่ให้สี กลิ่น และรสที่เป็นลักษณะเฉพาะของผลิตภัณฑ์ ซึ่งสันนิษฐานว่าสารนี้สามารถไปทำปฏิกิริยากับกรดอะมิโนแอสพาราจีน ที่เป้นกรดอะมิโนอิสระที่พบสูงในมันฝรั่งและธัญพืชมากกว่าอาหารประเภทอื่น นอกจากนั้น สารอะคริลาไมด์สามารถพบในน้ำดื่มได้ด้วย เนื่องจากสารอะคริลาไมด์ที่อยู่ในรูปของโพลีเมอร์ ถูกนำมาใช้เป็นตัวกรองหรือนำเอาสารที่ไม่ต้องการออกจากน้ำดื่ม
เพราะฉะนั้น วิธีป้องกันจากภัยของมะเร็งร้ายที่ดีที่สุดก็คือ ลดหรือเลิกอาหารฟาสต์ฟู้ดทั้งหลาย หันมาบริโภคผัก ผลไม้ จะดีกว่าค่ะ
ขอขอบคุณ นิตยสารเรื่องผู้หญิง