ภาพจาก : amarinbabyandkids.com
ขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้ก็มีประโยชน์ไม่น้อยแล้วนะคะ แต่ถ้าเป็นผลไม้ที่มีสีแดงด้วยแล้วล่ะก็ยิ่งดีต่อสุขภาพค่ะ เพรานอกจากจะมีสีสันที่สวยงาม รสชาติอร่อยถูกปากแล้ว ผลไม้สีแดงยังช่วยชะลอวัยได้อีกด้วยค่ะ
ผักผลไม้สีแดงมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เด่นมากอยู่สองตัวคือ ไลโคพีน และ แอนโทไซยานินส์ ไลโคพีนนั้นเด่นในเรื่องการป้องกันมะเร็งหลายชนิด โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก โรคมะเร็งยอดฮิตของผู้ชาย และยังมีการศึกษากันมากว่าไลโคพีนช่วยให้ผิวทนแสงยูวีได้ดีขึ้น หรือเรียกง่ายๆว่าเป็นสารกันแดดจากภายในอีกด้วย ส่วนแอนโทไซยานินส์นั้น มีการศึกษากันมากในคุณสมบัติเรื่องการลดคอเลสเตอรอลตัวร้ายในเลือด และช่วยป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อม อันเป็นโรคที่สัมพันธ์กับอนุมูลอิสระโดยตรง เรามาทำความรู้จักกับผักผลไม้เด็ดๆในกลุ่มสีแดงกันค่ะ
- มะเขือเทศ เป็นขุมพลังไลโคพีน จะนำไปแช่เย็นแล้วทานเล่นแก้เครียด หรือนำไปผัดไฟอ่อนๆกับน้ำมันมะกอกสักเล็กน้อย ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มการดูดซึมให้ดีขึ้น
- แตงโม ผลไม้หวานชื่นใจอย่างแตงโมก็มีวิตามินซีสูงเช่นกัน และแน่นอนว่ายังมีไลโคพีนจัดเต็มอีกด้วย ในส่วนของความหวานของแตงโมที่รับประทานเข้าไปเป็นน้ำเสียเยอะ เป็นคาร์โบไฮเดรตและถูกเปลี่ยนเป็นน้ำตาลในเลือดจริงๆแล้วน้อย ค่าไกลซีมิกโหลดจึงไม่สูง สรุปว่า รับประทานได้ ไม่อ้วน (ถ้าจัดแต่พอประมาณ ไม่ใช่ครั้งละลูกสองลูก!!)
- สตรอเบอร์รี่ เป็นแหล่งของวิตามินซีและโฟลิก ประมาณว่าอัดแน่นด้วยสารต้านอนุมูลอิสระทานแล้วทั้ง ผิว ตา หัวใจ ต่อมลูกหมาก ได้ชะลอวัยไปพร้อมๆกัน และที่สำคัญ จัดเป็นผลไม้น้ำตาลไม่สูง จึงกินได้โดยไม่ต้องรู้สึกผิด
ภาพจาก : sanook.com
- เชอรี่ ต้านการอักเสบได้ดี (การอักเสบซ่อนเร้นในระดับเซลล์ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผิวเราแก่) และยังมีโปแทสเซี่ยมสูง ให้ผลดีในผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง (แต่ไม่เหมาะกับคนเป็นโรคไต)
- พริกหยวกแดง แหล่งของวิตามินเอและซีระดับเข้มข้น นอกจากนำมาทานเป็นสลัดแล้ว ยังอาจนำมาผัดกับเนื้อสัตว์ต่างๆ นึ่งทานกับน้ำพริก หั่นชิ้นเล็กเจียวกับไข่ หรืออีกสารพัดเมนูแล้วแต่จะสร้างสรรค์
- ราสพ์เบอรี่ มีคุณสมบัติกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ที่ช่วยสลายไขมัน จึงเหมาะกับการนำมารับประทานทดแทนขนมในช่วงลดน้ำหนัก
ยังไงก็ลองหาผลไม้ดังกล่าวมาทานกันดูนะคะ จะได้ไม่แก่เร็ว สวยใสกันได้นานๆ แต่ถึงยังไงก็อย่าลืมรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วยนะ สุขภาพจะได้แข็งแรง
ขอขอบคุณ ที่มา : นิตยสาร โรงพยาบาลสมิติเวช