ภาพจาก : ifwd.fwd.co.th
ถึงแม้ว่าในการรักษาโรคมะเร็งจะมีผลข้างเคียงจากเคมีบำบัด แต่ตัวยาแต่ละตัวก็จะให้ผลข้างเคียงที่ไม่เหมือนกันค่ะ ซึ่งผลส่วนมากที่ผู้ป่วยจะได้รับหลังจากการรับเคมีบำบัดมีดังนี้ค่ะ
- พิษทั่วๆ ไป จะมีอาการอ่อนเพลียเบื่ออาหาร ปวดเมื่อยตามตัวหรือปวดข้อ มีไข้ เป็นต้น
- พิษต่อผิวหนัง ทำให้ผิวหยาบ มีสีคล้ำ ผมและขนร่วง
- พิษต่อหู ทำให้หูอื้อ หูหนวก การได้ยิน ประสิทธิภาพลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
- พิษต่อระบบหายใจ อาจทำให้ทางเดินหายใจและเนื้อเยื่อปอดอักเสบ
- พิษเฉพาะที่ ซึ่งเคมีบำบัดชนิดที่ระคายเคืองต่อหลอดเลือดอาจเกิดการอักเสบ และถ้าออกนอกเส้นเลือด อาจทำให้เนื้อเยื่อตายและเป็นแผลได้
- พิษต่อระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ทำให้บริเวณปลายประสาทเกิดการอักเสบ ปลายมือและปลายเท้าเกิดอาการชา กล้ามเนื้ออ่อนเปลี้ย และเมื่อพิษซึมเข้าสู่ประสาทส่วนกลางจะมีอาการซึมและชัก
- พิษต่อไขกระดูก ยาจะไปกดไขกระดูกทำให้การสร้างเม็ดเลือดผิดปกติ เลือดจาง เม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคแทรกซ้อนอื่นๆ โดยเฉพาะการติดเชื้อ
ภาพจาก : artforcancerbyireal.com
- พิษต่อระบบทางเดินอาหาร อาจส่งผลกระทบต่อการอักเสบตลอดทางเดินอาหารจากปาก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้ ไปจนถึงทวารหนัก นอกจากนี้การอักเสบอาจเกิดเป็นแผล มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก ท้องเดิน พิษต่อตับและตับอักเสบได้
- พิษต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจ ทำให้ผนังหลอดเลือดและกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและอาจขาดเลือดมาเลี้ยงบางส่วน
- พิษต่อระบบทางเดินปัสสาวะ ทำให้เกิดการอักเสบ ปัสสาวะเป็นเลือด เนื้อไตเกิดการเปลี่ยนแปลง และอาจเกิดไตวายชนิดเฉียบพลัน
- พิษต่อระบบสืบพันธุ์ จะส่งผลไปกดการทำงานของอัณฑะและรังไข่ ประจำเดือนอาจหายไประยะเวลาหนึ่งรวมถึงเป็นหมันชั่วคราว สำหรับสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ 3 เดือนแรกอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงของทารกในครรภ์ทำให้แท้งและคลอดก่อนกำหนด หรือทำให้ทารกพิการได้ ด้วยเหตุนี้จึงห้ามหญิงมีครรภ์รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด โดยเฉพาะใน 3 เดือนแรก
อย่างไรก็ตาม คนไข้ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งและเข้ารับการรักษาด้วยการใช้เคมีบำบัดหรือฉายรังสีนั้นแน่นอนว่าย่อมมีผลข้างเคียงตามมาอยู่แล้วค่ะ ผู้ป่วยต้องได้รับการดูแลเป็นอย่างดี และต้องมีกำลังใจที่ดีควบคู่ไปด้วยนะคะ
ขอขอบคุณ นิตยสารเรื่องผู้หญิง