การกินกาแฟในคนที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ จะมีผลต่อลูกหรือไม่

สำหรับคุณแม่ที่เป็น "คอกาแฟ" ไม่อยากเลิกดื่มกาแฟตอนตั้งครรภ์ คุณทราบหรือไม่ว่า กาแฟ มีผลอะไรต่อลูกในท้องบ้าง และจะดื่มกาแฟอย่างไร จึงจะปลอดภัยต่อลูกในท้อง

ภาพจาก thaihealth.or.th

การกินกาแฟในคนที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ จะมีผลต่อลูกหรือไม่

สำหรับคุณแม่ที่เป็น "คอกาแฟ" ไม่อยากเลิกดื่มกาแฟตอนตั้งครรภ์ คุณทราบหรือไม่ว่า กาแฟ มีผลอะไรต่อลูกในท้องบ้าง และจะดื่มกาแฟอย่างไร จึงจะปลอดภัยต่อลูกในท้อง

นมแม่ถือว่าเป็นอาหารที่ดีที่สุด สำหรับทารกแรกเกิด เพราะนอกจากจะไม่ต้องซื้อหาแล้ว ในนมแม่ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายทารกอีกด้วย อีกทั้งยังมีสารกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ทารก ทำให้ทารกเป็นโรคภูมิแพ้น้อยลง การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จึงถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

แต่ใช่ว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จะปลอดภัยร้อยเปอร์เซนต์ สารต่างๆที่ออกมาในนมแม่ ก็ได้มาจากอาหารที่คุณแม่กินนั่นเอง ถ้าคุณแม่กินของดี มีประโยชน์ นมก็จะออกมาอย่างมีคุณภาพ แต่ถ้าคุณแม่กินของที่ไม่มีประโยชน์ สิ่งเหล่านั้นก็จะออกมาให้น้ำนมด้วย ดังเช่น ที่ญาติผู้ใหญ่บางท่านแนะนำว่า ในคุณที่ให้นมลูก ไม่ควรกินของที่มีรสจัด อย่าลืมว่าเพียงแค่สารบางอย่างเพียงเล็กน้อย อาจจะมีผลอันใหญ่หลวงต่อลูกได้

ภาพจาก pantip.com

การกินกาแฟในระหว่างการตั้งครรภ์และให้นมบุตร เป็นคำถามที่สงสัยกันมาก โดยเฉพาะในคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ เพราะการที่จะให้เลิกกาแฟทันทีทันใดนั้น เป็นเรื่องน่าทรมาน ส่วนใหญ่จะมีอาการปวดหัว ง่วงนอนมาก หรือหงุดหงิด การเลิกกินกาแฟนั้น ควรมีลักษณะแบบค่อยเป็นค่อยไป เลิกทีละน้อยๆ เปลี่ยนจากการดื่มกาแฟที่มีคาเฟอีน มาเป็นแบบที่ไม่มีคาเฟอีน แล้วกาแฟมีผลต่อทารกเมื่อเราให้เขาดื่มนมจากเต้าจริงหรือ? มีการศึกษาพบว่า กาแฟสามารถผ่านน้ำนมมาสู่ลูกได้ เด็กอาจจะได้รับผลจากคาเฟอีน คาเฟอีนจะไปกระตุ้นสมอง จะทำให้เด็กตื่น กระวนกระวาย ไม่ยอมนอน อาจมีผลต่อกระเพาะและลำไส้

แล้วเราจะสามารถดื่มกาแฟได้วันละกี่แก้วจึงจะปลอดภัย

เราควรงดกาแฟในขณะตั้งครรภ์และให้นมลูกเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่ถ้าไม่อยากงดการดื่มแล้วละก็ มีการศึกษาพบว่า ถ้ากินไม่เกินวันละ 3แก้ว ขณะตั้งครรภ์และให้นมลูก จะไม่มีผลต่อเด็ก หวังว่าคุณแม่คอกาแฟทั้งหลายคงหายสงสัยนะคะ ถ้าเลิกไม่ได้ก็ให้ดื่มแต่น้อยค่ะ เหมือนกับที่กรมตำรวจเขาแนะนำให้ดื่ม 6-2-2 แล้วไม่เมายังไงละคะ

ขอขอบคุณ ที่มา : นิตยสารเรื่องผู้หญิง