อัลฟัลฟ่า สรรพคุณและประโยชน์

ต้นอัลฟัลฟ่า จัดเป็นพืชตระกูลถั่วมีฝักที่มีลำต้นสูงประมาณ 30-60 เซนติเมตร เจริญเติบโตได้ในแถบทุกอากาศทั่วโลก ลำต้นมีระบบรากที่มหัศจรรย์ เพราะในบางพื้นที่รากของต้นอัลฟัลฟ่าสามารถชอนไชลงไปได้ลึกกว่า 130 ฟุต จึงสามารถดูดซึมธาตุอาหารได้มากและบริสุทธิ์กว่าพืชอื่น ๆ อีกทั้งต้นอัลฟัลฟ่าเองก็จะไม่สะสมสารพิษอีกด้วย

ที่มา thai.alibaba.com

อัลฟัลฟ่า สรรพคุณและประโยชน์

ถั่วอัลฟัลฟ่า (อัลฟัลฟา, หญ้าอัลฟัลฟ่า) ชื่อสามัญ Alfalfa, Lucerne (ลีวเซอน)

อัลฟัลฟ่า ชื่อวิทยาศาสตร์ Medicago sativa L. จัดอยู่ในวงศ์ถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE) และอยู่ในวงศ์ย่อยถั่ว FABOIDEAE (PAPILIONOIDEAE หรือ PAPILIONACEAE)

อัลฟัลฟ่า จัดเป็นพืชในตระกูลถั่ว เป็นพืชพื้นเมืองของเอเชียตะวันตกและในแถบเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก เป็นพืชที่มีคุณค่าทางอาหารสูง จึงได้รับการขนานนามว่าคือ “ราชาแห่งอาหารทั้งมวล” (AL-FAS-FAH-SHA) หรือเป็น “บิดาของอาหารทุกชนิด” (Father of all foods)

ลักษณะของอัลฟัลฟ่า

ต้นอัลฟัลฟ่า จัดเป็นพืชตระกูลถั่วมีฝักที่มีลำต้นสูงประมาณ 30-60 เซนติเมตร เจริญเติบโตได้ในแถบทุกอากาศทั่วโลก ลำต้นมีระบบรากที่มหัศจรรย์ เพราะในบางพื้นที่รากของต้นอัลฟัลฟ่าสามารถชอนไชลงไปได้ลึกกว่า 130 ฟุต จึงสามารถดูดซึมธาตุอาหารได้มากและบริสุทธิ์กว่าพืชอื่น ๆ อีกทั้งต้นอัลฟัลฟ่าเองก็จะไม่สะสมสารพิษอีกด้วย

ใบอัลฟัลฟ่า ใบแตกออกเป็น 3 ใบย่อย

ดอกอัลฟัลฟ่า ดอกเป็นสีม่วงหรือสีน้ำเงิน

ฝักอัลฟัลฟ่า มีเมล็ดอยู่ในฝัก

ที่มา pohchae.com

สรรพคุณและประโยชน์ของอัลฟัลฟ่า

  1. อัลฟัลฟ่ามีสารแคโรทีนและอุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสารที่ช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมเซลล์ต่าง ๆ ภายในร่างกาย จึงเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งที่ต้องการฟื้นฟูเซลล์ที่ถูกทำลาย ช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งในอวัยวะต่าง ๆ และช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
  2. สารไฟโตเอสโตรเจนมีบทบาทสำคัญในการช่วยป้องกันโรคมะเร็ง โดยสารที่จัดเป็นสารประเภทไฟโตรเอสโตรเจนที่มีอยู่ในอัลฟัลฟ่าได้แก่ Isoflavones, Coumestans และสาร Lignans แต่ในปัจจุบันยังไม่มีขนาดแนะนำในการรับประทาน แต่อย่างไรก็ดีการเพิ่มการบริโภคอาหารที่สารดังกล่าวจะสามารถช่วยป้องกันโรคมะเร็งในร่างกายได้เป็นอย่างดี
  3. สารซาโปนินมีรสขม มีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นให้เกิดความอยากอาหาร จึงช่วยทำให้รับประทานอาหารได้มากขึ้น
  4. สารซาโปนินที่พบในอัลฟัลฟ่า มีลักษณะเหมือนกันกับที่พบในรากโสม ซึ่งมันมีสรรพคุณช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบประสาทและช่วยทำให้กล้ามเนื้อหัวใจทำงานได้อย่างเหมาะสมและเป็นปกติ
  5. อัลฟัลฟ่ามีเบตาแคโรทีนสูง ซึ่งเป็นตัวช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันโรคของร่างกาย ช่วยทำให้ผิวหนังและเยื่อบุผิวหนังมีสุขภาพดี
  6. อัลฟัลฟ่าอุดมไปด้วยธาตุฟลูออไรด์และแคลเซียม มันจึงช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูกและฟันได้เป็นอย่างดี
  7. ช่วยบำรุงเส้นผม ลดอาการผมร่วง ทำให้ผมหงอกกลับดำขึ้น
  8. ช่วยทำให้ผู้ที่เป็นโรคต้อกระจกมองเห็นได้ดีขึ้น
  9. ช่วยลดความดันโลหิต ลดปัญหาเส้นเลือดหัวใจตีบ
  10. ช่วยลดระดับน้ำตาลและปรับระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวาน
  11. ในสหรัฐอเมริกาได้แนะนำให้ใช้อัลฟัลฟ่าในการรักษาภาวะโลหิตจาง
  12. ช่วยสนับสนุนการจับตัวของเลือด
  13. ช่วยกำจัดของเสีย ขับสารพิษออกจากร่างกาย ขับสารพิษออกจากเลือดและอวัยวะภายใน ลดการตกค้างของของเสียตามผิวหนัง ช่วยทำให้เลือดสะอาดและไหลเวียนได้ดีขึ้น ส่งผลทำให้ผิวพรรณผ่องใสและสุขภาพที่ดีตามมา มันจึงมีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ชอบรับประทานเนื้อสัตว์
  14. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเมล็ดเลือดแดง ทำให้ระบบการไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น
  15. สารซาโปนินจะช่วยลดการอุดตันของเกล็ดเลือดในเส้นเลือดฝอย ช่วยลดอัตราของการเกิดความจำเสื่อม และภาวะไขมันในเลือดสูงได้ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคความดันโลหิตสูงและโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ

ขอบคุณที่มา : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี , thaihealth (สสส.)
ภาพจาก : 108kaset