น้ำเต้าน้อย สรรพคุณและประโยชน์
น้ำเต้าน้อย ชื่อวิทยาศาสตร์ Cyathostemma micranthum (A.DC.) J.Sinclair จัดอยู่ในวงศ์กระดังงา (ANNONACEAE)
สมุนไพรน้ำเต้าน้อย ยังมีชื่ออื่นอีกว่า นมแมว (ประจวบคีรีขันธ์), เถาฤาษี ผสมแก้ว (สุราษฎร์ธานี), นมแมวน้อย, พญามีฤทธิ์, น้ำเต้าน้อย (ปราจีนบุรี) เป็นต้น
ลักษณะของน้ำเต้าน้อย
ต้นน้ำเต้าน้อย จัดเป็นไม้พุ่มแกมไม้เถาเนื้อแข็ง เลื้อยพาดอาศัยกับต้นไม้อื่น ๆ พยุงตัวขึ้นไปยาวได้ประมาณ 10-15 เมตร เปลือกเถาเป็นสีน้ำตาล ตามกิ่งอ่อนและยอดอ่อนมีขนสีน้ำตาลปกคลุมอยู่ ต้นน้ำเต้าน้อยมีเขตการกระจายพันธุ์ตั้งแต่ประเทศพม่าและหมู่เกาะอันดามันไปจนถึงประเทศมาเลเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ นิวกินี และทางตอนเหนือของออสเตรเลีย ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด สามารถพบได้ในป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง และตามป่าเบญจพรรณทั่วไป ที่ระดับความสูงตั้งแต่ระดับน้ำทะเลประมาณ 300-800 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง
ใบน้ำเต้าน้อย ใบเป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับกัน ลักษณะของใบเป็นรูปขอบขนานแกมรูปใบหอก ปลายใบเรียวแหลม โคนใบมน ใบมีขนาดกว้างประมาณ 2.3-5 เซนติเมตรและยาวประมาณ 6-14 เซนติเมตร หลังใบเรียบเป็นมัน ส่วนท้องใบเรียบเช่นกัน ใบค่อนข้างหนาและเหนียว ก้านใบยาวประมาณ 5 มิลลิเมตร
ดอกน้ำเต้าน้อย ออกดอกเป็นช่อตามปลายกิ่งหรือตามกิ่ง ช่อดอกมีดอกย่อยประมาณ 2-5 ดอก ดอกเป็นสีเหลืองอ่อน สีเหลืองแกมเขียว หรือสีน้ำตาลแกมเหลือง ก้านดอกยาวประมาณ 5 มิลลิเมตร ดอกมีกลิ่นหอม กลีบดอกมี 6 กลีบ ลักษณะของกลีบดอกเป็นรูปสามเหลี่ยม ส่วนกลีบเลี้ยงดอกมี 3 กลีบเป็นสีเขียว ลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมและมีขน เมื่อดอกบานออกกลีบจะกางออกและปลายโค้งเข้าหากัน โดยจะออกดอกในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม
ผลน้ำเต้าน้อย ออกผลเป็นกลุ่ม ก้านช่อผลยาวประมาณ 7 มิลลิเมตร มีผลย่อยประมาณ 10-20 ผล ก้านผลยาวประมาณ 2-2.5 เซนติเมตร ผลย่อยมีลักษณะเป็นรูปทรงกลมเรียว ยาวประมาณ 1.2 เซนติเมตร ผิวผลมีขนปกคลุม ผลอ่อนเป็นสีเขียว เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ภายในผลมีเมล็ด 1 เมล็ด เมล็ดมีลักษณะกลม โดยจะติดผลในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม
ภาพจาก : medthai.com
สรรพคุณและประโยชน์ของน้ำเต้าน้อย
- เนื้อไม้มีรสฝาดเฝื่อน สรรพคุณเป็นยาแก้ไข้หวัด แก้ไข้เพื่อเสมหะ แก้ไข้ทับระดู แก้ไข้กลับ (เนื้อไม้)
- รากใช้ฝนกับน้ำทาแก้พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย (ราก)
- รากมีรสฝาดเฝื่อน สรรพคุณเป็นยาแก้กาฬผอมแห้งของสตรีที่อยู่ไฟไม่ได้ (ราก)
ขอบคุณที่มา : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี , thaihealth (สสส.) , หมอชาวบ้าน
ภาพจาก : medthai