ข้าวเกรียบปากหม้อ ขนมไทย

วิธีทำข้าวเกรียบปากหม้อ1. นำผ้าขาวบางมาแช่น้ำ จนผ้าอิ่มน้ำ แล้วนำมาผูกไว้กับปากของหม้อนึ่ง แล้วนำมาตั้งไฟให้น้ำเดือด2. เทแป้งที่ได้เตรียมไว้ลงไป 1 ช้อนโต๊ะ แล้วใช้ทัพพีเกลี่ยแป้งให้ทั่วผ้าขาว เป็นแผ่นบาง หลังจากนั้นให้ปิดฝาไว้ รอแป้งสุก

ภาพจาก th.wikipedia.org

ข้าวเกรียบปากหม้อ

ส่วนผสมของแป้ง

  • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
  • แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ
  • แ้ป้งเท้ายายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ (แป้งซึ่งทำมาจากหัวหรือรากของต้นเท้ายายม่อม)
  • น้ำเปล่า 3 ถ้วย

ทำแป้งข้าวเกรียบปากหม้อ

เมื่อเตรียมส่วนผสมดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้วก็มาเริ่มทำแป้งข้าวเกรียบปากหม้อกันเลย ซึ่งวิธีทำ ให้นำทั้งแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน และแ้ป้งเท้ายายม่อม ซึ่งได้เตรียมไว้เทผสมกันลงไป แล้วค่อยๆ เทน้ำลงไป นวดแป้งไปเรื่อยๆ จนกว่าแป้งจะเหนียว เท่านี้ก็ได้แป้งไว้สำหรับทำข้าวเกรียบปากหม้อแล้ว เมื่อได้แป้งแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด ซึ่งเป็นตัวตัดสินความอร่อยของข้าวเกรียบปากหม้อก็คือไส้นั่นเอง ซึ่งวิธีทำก็ไม่ยากอีกเช่นกัน

ภาพจาก raisaara.com

ส่วนผสมของไส้ข้าวเกรียบปากหม้อ

  • เนื้อหมู สับให้ละเอียด 2 ขีด
  • ถั่วลิสงคั่วบดหยาบ 3 ขีด
  • ไชโป๊วสับละเอียด 3 ขีด
  • หอมแดง 10 หัว (นำมาสับละเอียด)
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ขีด
  • น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำไส้ข้าวเกรียบปากหม้อ

1. ตั้งน้ำมันในกระทะให้ร้อน และนำหมูสับละเอียดที่เตรียมไว้ไปผัดให้สุก

2. ใส่หอมแดง กับไชโป๊วที่ได้เตรียมไว้ลงไปผัดกับหมูสับให้เข้ากัน

3. เมื่อเข้ากันดีแล้วให้เทน้ำตาลปี๊บกับน้ำปลาที่เตรียมไว้ลงไป คนให้เข้ากัน ซึ่งจะทำให้มีรสชาติออกหวานเค็ม โดยอาจปรับปริมาณน้ำตาลปี๊บกับน้ำปลาได้ เพื่อให้ได้รสชาติที่ท่านโปรดปราน

4. ใส่ถัวลิสงคั่วบดหยาบลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วใช้ไฟอ่อนๆ ผัดไปเรื่อยจนไส้จับตัวเป็นก้อนเดียวกัน ก็เป็นอันสำเร็จ

วิธีทำข้าวเกรียบปากหม้อ

1. นำผ้าขาวบางมาแช่น้ำ จนผ้าอิ่มน้ำ แล้วนำมาผูกไว้กับปากของหม้อนึ่ง แล้วนำมาตั้งไฟให้น้ำเดือด

2. เทแป้งที่ได้เตรียมไว้ลงไป 1 ช้อนโต๊ะ แล้วใช้ทัพพีเกลี่ยแป้งให้ทั่วผ้าขาว เป็นแผ่นบาง หลังจากนั้นให้ปิดฝาไว้ รอแป้งสุก

3. เมื่อแป้งสุกแล้ว (สังเกตได้จาก สีจะใสๆ) ก็ให้ปั้นแป้งเป็นก้อนวางลงไป (วางลงไปตรงกลาง)

4. หลังจากใส่ไส้แล้ว ให้ปาดแป้งให้มาคลุมใส้ให้มิด เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยกับข้าวเกรียบปากหม้อ 1 ชิ้น พร้อมตักใส่จานพร้อมผักเคียง

ขอบคุณ ที่มา : suanhunsa ภาพจาก : wongnai