ครบ 1 เดือนคดีแตงโม จตุรงค์ สุขเอียด วิเคราะห์เรื่องราวเทียบ 2 คดีดังในอดีต ที่ผู้ต้องสงสัยมีฐานะร่ำรวย อีกทั้งตำรวจยังสรุปสำนวนคดีไม่ได้ว่าจะตั้งข้อหาฆาตกรรมกับคนบนเรือสักคนได้หรือไม่
จากเหตุการอันสุดสลดของคนทั้งประเทศ การจากไปของดาราสาวมากความสามารถอย่าง แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ ที่เกิดประสบอุบัติเหตุพลัดตกเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยาจนเสียชีวิตในคืนวันที่ (24 ก.พ. 65) ในขณะล่องเรือเที่ยวสังสรรค์อยู่กับเพื่อนๆทั้ง 5 ราย ซึ่งหากนับจำนวนวันแล้ววันนี้ถือว่าครบ 1 เดือน การจากไปของแตงโม
ล่าสุด จตุรงค์ สุขเอียด ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านเพซบุ๊กส่วนตัว จตุรงค์ สุขเอียด วิเคราะห์เรื่องราวของคดีดังที่กำลังเกิดขึ้นในกระแสสังคมตอนว่า วันนี้ครบ30วันที่แตงโมตกเรือจนเสียชีวิต แต่ตำรวจยังสรุปสำนวนคดีไม่ได้ ว่า จะตั้งข้อหาฆาตกรรมกับคนบนเรือสักคนได้หรือไม่ที่ตั้งไปแล้ว คือ เจ้าของเรือ ขาดต่อทะเบียน กับขาดอายุประกัน ส่วนคนขับเรือ ฐาน ประมาท และไม่มีใบอนุญาตที่เหลือ ยังเป็นผู้อยู่ร่วมในเหตุการณ์
มีคนถามผมว่า คดีแตงโม พอจะเทียบเคียงได้กับคดีไหนได้บ้างเอาเร็วๆ 2 คดีที่คนร่วมรุ่นจำได้ คือ 1.คดีเสือดำ และ 2.คดีบอส อยู่วิทยา เหตุที่ 2 คดีนี้ใกล้เคียงก็เพราะผู้ก่อเหตุนั้นมีฐานะร่ำรวย เหมือนกัน
ถ้าเทียบคดีแตงโม กับคดีเสือดำคือจนท.พบเจ้าสัวกับพวกเข้าป่า มีเพียงกลุ่มนี้เท่านั้นที่รู้ว่าใครทำอะไร ใครยิงเสือ ใครต้ม กินเนื้อเสือดำถ้าหัวหน้าวิเชียร ไม่จับได้ คนพวกนี้คงลอยนวลไปแต่ภายหลังเจ้าสัวผิดเป็นเจ้าของปืน อ้าง ไม่ใช่คนยิง เพราะอีกคนมารับแทนว่าเป็นยิงเสือดำความผิดจึงออกมาแบบที่เราเห็น จึงทำนองเดียวกับเรือเจ้าของไม่ได้ขับตอนแตงโมตกเรือส่วนคนขับทำให้ตกเรือเป็นอุบัติเหตุหรือมีประเด็นอื่น จึงเป็นที่ติดใจอยู่ถ้า คนบนเรือ ไม่ยอมบอกท่าสุดท้าย ตำแหน่งที่ตกได้ สอดคล้องกับพยานแวดล้อม บาดแผลที่พบ สำนวนคงปิดยากครับ เพราะคนคงตามสาปแช่งตำรวจอีกคดีหนึ่ง
ส่วนที่มาใกล้กับคดีบอส คือ พฤติกรรมหลังเกิดเหตุคดีบอสซิ่งรถซุปเปอร์คาร์ ชนตำรวจตายแล้วหนีเข้าบ้านไม่ลงมาดู เพราะมีพิรุธ ในตัว คล้ายคดีนี้ คือ แทนที่จะลงไปช่วยให้รายละเอียดกลับหลบไปตั้งหลัก จนสร่างเมา สร่างสารบางชนิดหรือไม่คดีบอส ต่อมา พบว่า มีกระบวนช่วยเหลือกันเป็นทีมใหญ่ใช้เงินหรือสัญญาให้ญาติ ตำรวจไม่อายัดตัวไว้ระหว่างสอบเราพบเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานช่วย เปลี่ยนความเร็วรถ จากมากให้ช้าลงเปลี่ยนผลตรวจหาสารเสพติดเปลี่ยนวงจรปิด… เปลี่ยนสำนวน แก้คำให้การพยานจนถึงการช่วยเหลือของอัยการบางคนจะตัดคดี ไม่ส่งฟ้องไปศาลตำรวจ ต.ม.ไม่อายัดตัว จนไม่มีใครรู้ว่าผู้ต้องหาออกไปทัวร์ยุโปนานแล้ว
คดีบอสจึงสร้างนักสืบโซเชียลขึ้นมาอีกคดี เพราะเขาไม่เชื่อถือตำรวจที่ทำคดีให้คนรวยๆ ให้ยุติธรรมได้ จาก2ตัวอย่างนี้แต่ถ้าถามต่อว่า คดีแตงโม จบแบบไหนก็ขอบอก คนบนเรือทั้ง5ว่า ถ้าคดีนี้ตำรวจสรุปสั่งไม่ฟ้องคดีฆาตกรรมกับใครเลยแน่นอนคดีไม่ถูกส่งให้ศาลพิพากษาโทษ ทั้งที่คนๆหนึ่งต้องเสียชีวิตได้ด้วยความคลุมเครืออยู่เช่นนี้แม้ไม่ต้องติดคุก แต่ท่านจะขาดอิสระภาพไปยาวนานไร้การพักโทษ
ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่า มีคน2กลุ่มตัดสินโทษได้ 1 คือ ผู้พิพากษา 2.สังคม(พิพากษา)ถ้าสังคมพิพากษา นั้น คุณจะไม่ได้รับการปลดปล่อยไปชั่วชีวิตคุณจะถูกสังคมตราหน้า ไปตลอด ทั้งลูกๆหลานๆ แม้ไม่ติดคุก แต่สายตาของคนที่เดินผ่านคุณไปแต่ละคู่จะกักขังคุณ ไม่ต่างจากลูกกรงการเดินอยู่ในสังคมที่พิพากษา นั้นยาวนานกว่า การติดคุกแล้วออกมา มากมายนักแต่การจะให้สังคม เข้าใจก็ทำได้ไม่ยาก เพียง ใครสักคนใน5 คนกล้า ออกมาตั้งโต๊ะ พูดแต่ความจริงทั้งหมดแบบไร้การปรุงแต่งพูดสิ่งที่เกิดขึ้นจริง.. แก้คำพูดที่ไม่จริง บอกความจริงทั้งหมดบนเรือทั้งก่อนลงเรือ อยู่บนเรือ หลังเกิดเหตุ แม้ความจริงใหม่จะทำให้คุณสักคนติดคุก แต่ผมเชื่อว่า คนที่ติดคุก(ถ้ามี)แต่วันที่ ได้ออกมาคนๆนั้น จะเป็นคนแรก ที่ได้รับอิสระจากสังคมเพราะฉะนั้น ความจริงจึงเป็นเครื่องมือเดียวเท่านั้นที่สังคมต้องการและรอคอยจากคนทั้ง5และคือทางสู่อิสระภาพ
The post ครบ 1 เดือนคดีแตงโม จตุรงค์ สุขเอียด วิเคราะห์ตอนจบอาจคล้าย 2 คดีดังในอดีต appeared first on Bright Today.