ภาพจาก : clinicneo.com
คุณผู้หญิงทั้งหลายถึงแม้ว่าจะอยากสวยมากแค่ไหนก็ต้องระวังตัวกันไว้สักนิดนะคะ โดยเฉพาะกับการศัลยกรรมและการฉีดสารต่างๆ เข้าร่างกาย เพราะนอกจากจะไม่สวยแล้วยังอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้
อย. เตือนผู้บริโภคให้ระวังอย่าหลงเชื่อโฆษณาฉีดโกรทฮอร์โมนเข้าสู่ร่างกาย เพื่อชะลอวัย ให้อ่อนเยาว์ อาจ เกิดผลข้างเคียง ทำให้ร่างกายได้รับอันตรายจากผลข้างเคียงโดยไม่รู้ตัว ย้ำ อย. ไม่ได้อนุญาตให้ใช้ยาโกรทฮอร์โมน เพื่อฉีดชะลอวัยแต่อย่างใด ขณะนี้อนุมัติให้ขึ้นทะเบียนตำรับยาชนิดเดียว คือ Somatropin โดยข้อบ่งชี้ของยานี้ เพื่อรักษาผู้ป่วยเด็กในการรักษาภาวะขาดโกรธฮอร์โมนเท่านั้น
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้รับเรื่องร้องเรียน กรณีประชาชนนิยมฉีดโกรทฮอร์โมน เข้าสู่ร่างกาย เพื่อชะลอวัยให้อ่อนเยาว์ บางคนซื้อยาดังกล่าวมาฉีดด้วยตนเอง จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุขเผยแพร่ ความรู้เกี่ยวกับโทษของการฉีดโกรทฮอร์โมนให้ประชาชนทราบข้อเท็จจริง นั้น ในเรื่องดังกล่าว สำนักงาน คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอชี้แจงและเตือนประชาชนให้ทราบว่า ยาโกรทฮอร์โมนที่ อย. อนุมัติให้ขึ้น ทะเบียนตำรับในประเทศไทยมีเพียงชนิดเดียวคือ Somatropin ที่เป็น Recombinant human growth hormone โดย อย. ได้จำกัดข้อบ่งชี้ให้ใช้เฉพาะเพื่อรักษาผู้ป่วยเด็กเท่านั้น และให้ใช้เพื่อการรักษาภาวะขาดโกรทฮอร์โมน (Growth hormone) เพื่อการรักษาโรคทางพันธุกรรมชนิดโครโมโซมเพศเพียง X ตัวเดียว
ภาพจาก : thairath.co.th
ซึ่งเป็นกลุ่มอาการ เทอร์เนอร์ซินโดรม Turner syndrome (TS) และเพื่อการรักษาภาวะทารกตัวเล็กหรือคลอดก่อนกำหนดและมี น้ำหนักน้อย Born small for gestatonal age (SGA) ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด ที่สำคัญ ยาโกรทฮอร์โมนให้ จำหน่ายได้เฉพาะโรงพยาบาลที่มีกุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิซึมที่ได้รับอนุมัติบัตรและ วุฒิบัตรอนุสาขาต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิซึมจากแพทยสภาเท่านั้น โดยให้แพทย์เป็นผู้มีสิทธิ์สั่งยาและติดตาม ผลการรักษาเพื่อให้เกิดประสิทธิผลและความปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
การนำยาโกรทฮอร์โมนไปใช้เพื่อการฉีดให้ชะลอวัย จึงเป็นการใช้ยานอกเหนือจากที่ระบุไว้ในเอกสารกำกับยา เนื่องจาก อย. ไม่ได้อนุญาตให้ใช้ยาโกรทฮอร์โมน เพื่อวัตถุประสงค์การฉีดให้ชะลอวัย อ่อนเยาว์ เนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เช่น ทำให้เกิดโรคเบาหวาน มะเร็งลำไส้ เป็นต้น จึงขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อโฆษณาฉีดยาดังกล่าวเด็ดขาด
ขอขอบคุณ ที่มา : องค์การอาหารและยา