ภาพจาก : pptvhd36.com
คุณผู้หญิงหลายคนคงจะเคยประสบกับปัญหานี้ในช่วงไดเอทกันนะคะ ไม่ว่าเราจะกินน้อยแค่ไหน ออกกำลังกายหักโหมเท่าไหร่ แต่พอไปชั่งน้ำหนักดูทีไรน้ำหนักก็ไม่ลดลงเลยแถมยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย วันนี้เราเลยมาไขข้อข้องใจดังกล่าวให้คุณๆ ฟังกันค่ะ
1. กินเท่าแมวดม การลดแคลอรีเหมือนจะเป็นวิธีที่ช่วยให้น้ำหนักลดอย่างรวดเร็วแต่มันก็ทำให้น้ำหนักขึ้นอย่างรวดเร็วได้เช่นเดียวกันค่ะ ทางที่ดีเราไม่ควรลดแคลอรีให้ต่ำกว่า 1200-1500 แคลอรีต่อวัน และถ้าจำกัดปริมาณอาหารมากๆ ระบบเผาผลาญจะทำงานช้าลงด้วยค่ะ
2. กินอาหารสุขภาพเพราะคิดว่าแคลอรีต่ำ การกินอาหารเพื่อสุขภาพใช่ว่าจะกินมากได้นะคะ เพราะบางอย่างอาจมีพลังงานสูงกว่าที่คิดและให้ปริมาณแคลอรีมากจนตกใจ ทางแก้คือ นับแคลอรีทุกเม็ด ถ้ารู้ว่าอาหารจานนั้นอาจมีแคลอรีสูงกว่าที่ร่างกายต้องการ วิธีนี้จะทำให้เราระวังการกินมากขึ้นค่ะ
3. ไม่กินมื้อเที่ยง แต่จัดหนักมื้อเย็น การไม่กินอาหารกลางวันจะทำให้ฮอร์โมนปั่นป่วนและทำให้หิวมากขึ้นในมื้อถัดไปทางที่ดีควรกินมื้อเช้าในปริมาณ 450 แคลอรี ซึ่งจะทำให้อิ่มไปถึงมื้อกลางวัน และไม่ควรกินมื้อใดมื้อหนึ่งห่างกัน 5 ชั่วโมง ที่สำคัญมื้อเย็นควรน้อยกว่ามื้อเที่ยงครึ่งนึงค่ะ
ภาพจาก : matichon.co.th
4. เชื่อคำโฆษณาบนฉลาก จากการวิจัยพบว่าคนเราจะกินมากขึ้นเมื่อเห็นคำว่า ปราศจากน้ำตาล หรือไขมันต่ำ ติดอยู่บนสินค้านั้นๆ ทั้งที่ความจริงคำพูดชวนเชื่อเหล่านี้ไม่ได้มีแคลอรีน้อยลง แต่เราเข้าใจผิดคิดไปเองมากกว่า เพราะงั้นเปลี่ยนความคิดซะใหม่นะคะ
5. ตั้งเป้าลดน้ำหนักแค่ชั่วคราว มีผลการประเมินออกมาว่าคนที่ลดน้ำหนักได้จริงมีเพียง 20% เท่านั้น ที่เป็นแบบนี้เพราะว่าเมื่อเราบรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งใจไว้แล้ว ก็จะกลับมากินแบบเดิมๆ อีก แบบนี้ต้องคิดว่าการไดเอทเป็นการลงทุนระยะยาวไม่ใช่ว่าลดได้ตามเป้าหมายแล้วก็เลิก เดี๋ยวก็กลับมาลดใหม่อีก
รู้สาเหตุของการที่ลดน้ำหนักเท่าไหร่ก็ไม่ลดลงกันไปแล้วก็อย่าลืม นำไปปฏิบัติตามกันด้วยนะคะจะได้ไม่ต้องมานั่งบ่นให้คนรอบข้างรำคาญกันอีก
ขอขอบคุณ ที่มา : นิตยสาร Spicy