Do and Don't ที่ควรรู้ไว้ก่อนถึง Tea Break

คนที่ดื่มชาเป็นประจำวันละหนึ่งถ้วย จะได้รับคาเฟอีนในปริมาณที่ไม่มากไม่น้อยเกินไป ช่วยกระตุ้นประสาทส่วนกลางให้ทำงานดีขึ้น

เกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ต่อไปนี้จะช่วยให้คุณหลงใหลการดื่มน้ำชามากขึ้น

Do คนที่ดื่มชาเป็นประจำวันละหนึ่งถ้วย จะได้รับคาเฟอีนในปริมาณที่ไม่มากไม่น้อยเกินไป ช่วยกระตุ้นประสาทส่วนกลางให้ทำงานดีขึ้น ทีเลิฟเวอร์ทั้งหลายจะกระฉับกระเฉง แต่ไม่คึกคักจนกลายเป็นไฮเปอร์อย่างคนที่ดื่มกาแฟ

  • ก่อนจะดื่มชาอย่าลืมบอกตัวเองว่าคุณกำลังดูแลจิตใจตัวเองให้ผ่อนคลาย กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ขยายหลอดเลือดแถมยังป้องกันโรคหัวใจ หวัด และอาการปวดหัวด้วย สรุปว่าเวลาน้ำชาก็คือเวลาดูแลสุขภาพนั่นเอง
  • ร่างกายของเราสะสมสารพิษเอาไว้มากมายจากอาหารและมลพิษรอบๆ ตัว แต่สารโพลิฟินอลในน้ำชาจะขับสารพิษพวกนี้ออกไป ส่วนสารอะโรมาติกก็จะช่วยระงับกลิ่นปากและป้องกันฟันผุ คนที่กำลังมีปัญหาเรื่องกลิ่นปากเลิกกังวลได้เลย
  • ตำรายาจีนบันทึกไว้ว่า ชาร้อนแก่ๆ 1 แก้วช่วยรักษาโรคบิดได้ แปลว่าน้ำชามีสรรพคุณฆ่าเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ได้ผล ถ้าถูกโรคอาหารเป็นพิษจู่โจมหรือติดเชื้อในลำไส้ น้ำชาก็ช่วยได้เหมือนกัน
  • ในชาเขียวมีวิตามินซี วิตามินบีคอมเพล็กซ์ กรดเพนโทเทนิค และวิตามินพี ช่วยให้หลอดเลือดยืดหยุ่น เส้นเลือดฝอยไม่แตกง่าย ถ้าคุณกำลังเป็นโรคลักปิดลักเปิดหรือเลือดออกตามไรฟัน นี่ล่ะวิธีรักษาโรคโดยไม่ต้องไปหาหมอ
  • การดื่มชาเขียวเป็นประจำสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งในกระเพาะอาหาร เห็นหรือยังว่าของเขาดีจริงๆ
  • ถ้าคุณกำลังมองหายาลดความอ้วนที่ไม่ทำลายสุขภาพ คำตอบก็คือชาอูหลง ที่สำคัญชาชนิดนี้เป็นยาระบายอ่อนๆ เหมาะจะจิบแก้ปัญหาท้องผูก เงื่อนพิรอดในท้องจะได้บ๊ายบายไปเสียที

Don't อย่าใช้น้ำร้อนเดือดใหม่ๆ ในการชงชา เพราะความร้อนจะทำลายสารอาหารที่มีประโยชน์บางตัวไป แต่ถ้าชอบน้ำร้อนจัดจริงๆ ควรชงแก่ๆ สารอาหารจะได้ละลายไปเพียงบางส่วน เหลือส่วนใหญ่ไว้บำรุงสุขภาพของเรา

  • นมกับน้ำชาไปด้วยกันไม่ได้ เพราะโปรตีนในนมจะไปจับสารอาหารในใบชา จนออกฤทธิ์ให้ประโยชน์กับร่างกายไม่ได้
  • ในทางกลับกันถ้ากินอาหารเสริมหรือยากับชา สารอาหารในชาจะไปทำให้วิตามินและตัวยาตกตะกอนจนร่างกายดูดซึมไปใช้ไม่ได้

ขอขอบคุณ ที่มา : Spicy ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต