ห่วงใช้นมข้นหวานเลี้ยงทารก เสี่ยงภูมิคุ้มกันต่ำ

แพทย์แนะไม่ควรนำนมข้นหวานใช้เลี้ยงเด็กทารก เสี่ยงภูมิคุ้มกันต่ำ และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต โดยควรให้กินนมแม่อย่างเดียวต่อเนื่อง 6 เดือนดีที่สุด

แพทย์แนะไม่ควรนำนมข้นหวานใช้เลี้ยงเด็กทารก เสี่ยงภูมิคุ้มกันต่ำ และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต โดยควรให้กินนมแม่อย่างเดียวต่อเนื่อง 6 เดือนดีที่สุด

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงกรณีมีการผสมนมข้นหวานกับน้ำเปล่าเพื่อเลี้ยงเด็กทารกว่า ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกแนะนำว่า ทารกแรกเกิดจนถึงอายุ 6 เดือนควรได้กินนมแม่อย่างเดียว หลังจากนั้น กินนมแม่ควบคู่กับอาหารตามวัยจนถึง 2 ปีหรือนานกว่านั้น เนื่องจากนมแม่เป็นอาหารที่มีคุณค่าที่สุดสำหรับทารก มีสารอาหารกว่า 200 ชนิด ที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตทางกาย พัฒนาสมอง จอประสาทตา รวมทั้งเป็นอาหารที่ย่อยง่าย และถูกสร้างมาให้เหมาะสมที่สุดกับสภาพร่างกายของทารกในแต่ละช่วงอายุช่วยให้เด็กมีสุขภาพแข็งแรง ส่งเสริมเรื่องสติปัญญา อารมณ์ และยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย

ทั้งนี้ ย้ำว่านมข้นหวานไม่เหมาะสำหรับการเป็นอาหารเด็ก เนื่องจากนมข้นหวานมีส่วนประกอบหลักแค่ไขมัน น้ำตาล โซเดียม ซึ่งต่างจากนมแม่ และนมผงดัดแปลงสำหรับเด็ก ซึ่งเป็นนมสำหรับเลี้ยงเด็กโดยเฉพาะ จึงห้ามนำมาใช้เลี้ยงทารก หรือห้ามใช้เพื่อเสริมคุณค่าทางอาหารแทนนมแม่ หรือนมผงสำหรับทารก อาจทำให้ทารกและเด็กเล็กเสี่ยงต่อภาวะขาดโปรตีน พลังงาน และสารอาหาร ส่งผลให้มีภูมิคุ้มกันต่ำ ติดเชื้อง่าย และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

ดังนั้น เด็กทารกแรกเกิดถึง 6 เดือน ควรกินนมแม่อย่างเดียว โดยไม่ต้องให้น้ำหรืออาหารอื่น หลังจากนั้นกินนมแม่ควบคู่กับการเริ่มอาหารตามวัย หากเด็กอายุเกิน 1 ปี สามารถกินนมกล่อง UHT หรือ พาสเจอไรซ์ ซึ่งมีราคาย่อมเยากว่าได้

อย่างไรก็ตาม การส่งเสริมเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และให้อาหารตามวัยแก่ทารกและเด็กอย่างเหมาะสมนั้น สามารถปฏิบัติได้ ดังนี้

1. ให้นมแม่อย่างเดียวตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือน ไม่ต้องให้อาหารอื่นแม้แต่น้ำ

2. เริ่มให้อาหารตามวัยที่มีสารอาหารครบ 5 หมู่ทุกวัน ตามวัยหลังอายุ 6 เดือน ควบคู่กับนมแม่

3. เพิ่มจำนวนมื้ออาหารตามวัยเมื่ออายุลูกเพิ่มขึ้น จนครบ 3 มื้อ เมื่ออายุ 10-12 เดือน

4. ค่อยๆ เพิ่มปริมาณ และความหยาบของอาหารขึ้นตามอายุ

5. ให้อาหารรสธรรมชาติ หลีกเลี่ยงการปรุงแต่งรส

6. ให้อาหารสะอาดและปลอดภัย

7. ให้ดื่มน้ำสะอาด หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มรสหวาน และน้ำอัดลม

8. ฝึกวิธีดื่มกินให้สอดคล้องกับพัฒนาการตามวัย

9. เล่นกับลูกสร้างความผูกพัน หมั่นติดตามการเจริญเติบโตและพัฒนาการ


ที่มา : เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต