นาซ่านำจรวดรุ่นใหม่ที่จะใช้ในโครงการสำรวจดวงจันทร์ ไปติดตั้งที่แท่นส่งจรวดในรัฐฟลอริดาในช่วงเย็นวันพฤหัสบดีตามเวลาในสหรัฐฯ เพื่อเตรียมทำการทดสอบขั้นสุดท้ายในช่วงไม่กี่สัปดาห์จากนี้ การขนส่งจรวด Space Launch System (SLS) น้ำหนัก 5.75 ล้านตัน ความสูงเท่าตึก 32 ชั้น จากโรงงานประกอบไปยังแท่นส่งจรวดที่ศูนย์อวกาศเคนเนดี รัฐฟลอริดา มีขึ้น ณ เวลา 17.00 น. ในวันพฤหัสบดี โดยมีการถ่ายทอดสดผ่านเว็บไซต์ขององค์การอวกาศสหรัฐฯ หรือ นาซ่า (NASA) การขนย้ายจรวดลำนี้จะใช้ยานพาหนะขนาดใหญ่พิเศษเคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ เป็นระยะทาง 4 ไมล์ และคาดว่าจะใช้เวลาราว 11 ชั่วโมงในการขนย้ายและติดตั้งบนแท่นส่งจรวด จรวดยักษ์ลำนี้ใช้เวลาพัฒนานานกว่า 10 ปี โดยจะใช้บรรจุแคปซูล โอไรออน (Orion) ซึ่งบรรทุกทีมนักบินอวกาศที่จะขึ้นไปสำรวจดวงจันทร์รอบใหม่ภายใต้โครงการ อาร์เตมิส (Artemis) ของนาซ่า สำหรับการทดสอบจรวดครั้งสุดท้ายจะมีขึ้นในวันที่ 3 เมษายน โดยคาดว่าจะใช้เวลาทั้งหมดสองวัน จากนั้นจะเริ่มการส่งจรวดแบบไม่มีนักบินไปวนรอบดวงจันทร์แล้วกลับสู่พื้นโลกในโครงการที่ชื่อว่า Artemis I โดยในการทดสอบครั้งสุดท้ายนั้น ยาน Orion ที่ไม่มีนักบินโดยสาร จะถูกปล่อยอกจากจรวด SLS เพื่อเดินทางผ่านดวงจันทร์ไปอีกเป็นระยะทางหลายพันไมล์ ก่อนที่จะวนกลับสู่โลกในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ฮาวเวิร์ด ฮู ผู้จัดการโครงการ Orion ของนาซ่า กล่าวในการแถลงข่าวว่า โครงการ Artemis I จะเป็นการรวบรวมข้อมูลสำคัญต่าง ๆ และวิเคราะห์ศักยภาพของยานอวกาศก่อนที่จะเริ่มโครงการ Artemis 2 ซึ่งเป็นการส่งมนุษย์ขึ้นไปวนรอบดวงจันทร์ และโครงการ Artemis 3 คือการส่งมนุษย์ไปลงบนพื้นผิวดวงจันทร์อีกครั้ง นาซ่าตั้งเป้าว่า จะสามารถนำสตรีคนแรกและคนผิวสีคนแรกไปสัมผัสพื้นผิวดวงจันทร์ก่อนสิ้นทศวรรษนี้ รวมทั้งเตรียมการสำหรับก่อตั้งอาณานิคมของมนุษย์บนดวงจันทร์หลังจากนั้น ตลอดจนเตรียมโครงการสำรวจดาวอังคารในอนาคต ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับผลของการทดสอบยิงจรวด SLS ในช่วงไม่กี่สัปดาห์จากนี้ ที่มา: รอยเตอร์ และซีเอ็นเอ็น