ลองจับ Samsung Galaxy S22 Ultra เมื่อตระกูล Note และตระกูล S รวมร่างกันสำเร็จ

หลังมือถือ Samsung ตระกูล Galaxy S22 เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อคืนวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Samsung ก็ได้จัดงาน The New Galaxy: Experience Day ให้สื่อมวลชนได้ลองไปจับ และใช้งาน Galaxy S22 ซึ่งเครื่องที่ได้ลองหลักๆ ภายในงานจะเป็นเครื่อง Galaxy S22 Ultra แม้ Galaxy S22 และ S22+ จะมีดีไซน์ไม่ต่างจากเดิมมากนัก แต่เครื่อง Galaxy S22 Ultra ที่ Samsung...

หลังมือถือ Samsung ตระกูล Galaxy S22 เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อคืนวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Samsung ก็ได้จัดงาน The New Galaxy: Experience Day ให้สื่อมวลชนได้ลองไปจับ และใช้งาน Galaxy S22 ซึ่งเครื่องที่ได้ลองหลักๆ ภายในงานจะเป็นเครื่อง Galaxy S22 Ultra

แม้ Galaxy S22 และ S22+ จะมีดีไซน์ไม่ต่างจากเดิมมากนัก แต่เครื่อง Galaxy S22 Ultra ที่ Samsung ให้ลองจับแบบใกล้ชิด จะให้ความรู้สึกคล้ายแตกต่าง คือคล้ายเป็นมือถือตระกูล Galaxy Note ไปเลย มีความรู้สึกเหลี่ยม แม้หน้าจอที่เป็นกระจก Gorilla Glass Victus+ ที่ปีนี้ทนรอยขีดข่วนและการตกกว่าเดิมจะยังเป็นหน้าจอขอบโค้งอยู่

เรื่องสีสันของหน้าจอคงไม่ต้องพูดถึงเพราะหน้าจอของ Samsung ขึ้นชื่อเรื่องสีสันหน้าจอสดใสอยู่แล้ว ปีนี้หน้าจอก็มาในความละเอียด QHD+ พร้อมอัตรารีเฟรชแบบไดนามิก สูงสุด 120Hz ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ ยังคงคอนเซ็ปต์ชัดเจน สีสันสดใส และตอบสนองทันใจเหมือนเดิม

ด้านล่างซ้าย มีที่เก็บปากกา S-Pen ซึ่งนำไปใช้กับมือถือ Galaxy รุ่นอื่นที่รองรับปากกาได้ (ยกเว้นตระกูล Fold) ยิ่งทำให้ดูคล้าย Galaxy Note ไปใหญ่ แต่ก็นับเป็นข้อดีสำหรับแฟนๆ ซีรีส์ Galaxy Note ที่จะได้ความรู้สึกและฟังก์ชั่นการใช้งานแบบเดิมๆ เต็มๆ กลับมา เพราะ Galaxy S22 Ultra เครื่องนี้ เมื่อมีปากกาและที่เก็บปากกาในตัว ก็แทบจะกลายเป็น Galaxy Note ไปแล้วนั่นเอง

เมื่อดึงปากกาออกมาก็จะมีเมนูสำหรับจดโน้ตขึ้นมาให้เลือกทันที ในส่วนความหน่วงของรุ่นนี้ เรียกได้ว่าลดลงเยอะมาก จาก 9ms ใน Galaxy S21 Ultra เหลือแค่ 2.8ms เท่านั้น เรียกได้ว่าเหลือไม่ถึ ⅓ ของความหน่วงด้วย แตะปากกาปุ๊ป เส้นออกปั๊ปเลยทีเดียว และเร็วกว่า iPad Pro พร้อม Apple Pencil 2 ที่ยังมีความหน่วงอยู่ที่ 9ms

เรื่องกล้องปีนี้ Samsung ชูจุดเด่นในการถ่ายภาพในที่แสงน้อย โดยให้กล้องหลังมา 4 ตัว กล้องหลักความละเอียด 108MP, กล้องอัลตร้าไวด์ 12MP, กล้องเทเล 10MP อีกสองตัว ตัวนึงซูม 3x Optical อีกตัว 10x Optical รองรับซูมสูงสุด 100x และตัวโมดูลกล้องในรุ่น S22 Ultra ก็ไม่ถูกแยกเป็นส่วนที่นูนออกมาจากตัวเครื่องแบบเดิมแล้ว แต่จะมีขอบเลนส์กล้องยื่นออกมาจากตัวเครื่องเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ตัวอย่างภาพถ่าย


ตัวอย่างภาพถ่ายแสงปกติ

ตัวอย่างภาพถ่ายแสงปกติ

ตัวอย่างภาพถ่ายในที่แสงน้อย

ตัวอย่างภาพถ่ายในที่แสงน้อย

ตัวอย่างภาพถ่ายบุคคลในที่แสงน้อย

ด้วยเวลาและพื้นที่จำกัดในงาน แม้เราจะยังไม่ได้เห็นการถ่ายภาพกลางแจ้งมากนัก แต่คุณภาพของการถ่ายภาพในอาคารกับแสงไฟนีออนและในที่มืดของ Galaxy S22 Ultra ก็ทำได้ดีพอสมควร ภาพถ่ายในห้องมืด (ภาพโมเดลอาคารจำลอง) ที่ Samsung จัดไว้ให้ ทำได้ดี ภาพโฟกัสได้ไว รายละเอียดครบครัน มีนอยซ์รบกวนน้อยมากและไม่ได้เร่งแสงจนโอเวอร์ น่าจะโดนใจผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพกลางคืนพอสมควร

สรุป

โดยรวมแล้วแม้ฟีเจอร์ต่างๆ ของ Galaxy S22 จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงจนแปลกใหม่นัก แต่ก็เป็นการปรับปรุงฟีเจอร์เดิมให้ดียิ่งขึ้น ผู้ที่เพิ่งซื้อ Galaxy S21 ไปคงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรีบเปลี่ยนเท่าไร ยกเว้นสำหรับรุ่น Galaxy S22 Ultra ที่น่าจะโดนใจแฟนๆ Galaxy Note เพราะเหมือนกับยกฟีเจอร์มาให้อย่างครบครัน จนเหมือนเป็นการรวมร่างกันของ Galaxy S และ Galaxy Note เลยทีเดียว

ส่วนราคาของ Galaxy S22 รุ่นต่างๆ เป็นไปตามรูปภาพด้านล่างนี้ สามารถสั่งจองได้ตั้งแต่ 10 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 3 มีนาคม 2565 ถ้าจองล่วงหน้ากับ Samsung จะได้อัพความจุเป็นสองเท่าฟรี ถ้าจองกับค่ายมือถือ ก็จะได้ส่วนลดแตกต่างกันไป