สูดโอโซน‘ดอยผาหมี’ สัมผัสเสน่ห์วิถีชาวอาข่า – ได้เวลาออกไปสูดโอโซน เก็บโมเมนต์บรรยากาศนอนกินลมชมดาว สัมผัสลมหนาวให้หมอกกระแทกหน้า ภายใต้มาตรการควบคุมโรคระบาดที่ต้องรักษาระยะห่าง เพราะโควิดไม่ยอมพรากจากเราไปสักที
ทริปนี้พาไปสถานที่ท่องเที่ยวสุดคูลที่ “หมู่บ้านผาหมี” หมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ หรือ CIV ภายใต้การสนับสนุนของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือ ดีพร้อม
หลายคนที่ได้ยินชื่อหมู่บ้านแห่งนี้อาจคิดว่าจะพาไปดูหมีหรือเปล่า ขอบอกเลยว่ามีดีมากกว่าหมีแน่นอน เพราะที่นี่คือดินแดนของชาวอาข่าที่ผสมผสานอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม ธรรมชาติ อากาศเย็นสบาย สดชื่นตลอดทั้งปี แถมยังมีของอร่อยๆ ให้ได้ชิม โพสต์อวดให้สนั่นวงการโซเชี่ยลกันไปเลย
หมู่บ้านดอยผาหมี หรือบ้านผาหมี อ.แม่สาย จ.เชียงราย อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 1,400 เมตรห่างจากตัวเมืองเชียงรายไม่มาก เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ ของชาวอาข่า มีวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิม และ วิถีชีวิตชาวผาหมี อันเรียบง่ายให้ได้เรียนรู้ ผู้คนใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม ล้อมรอบไปด้วยแนวทิวเขา มีพืชผลทางการเกษตร หลากหลาย เช่น ลิ้นจี่ ลองกอง และกาแฟ โดยเฉพาะสายพันธุ์อาราบิก้ารสชาติที่หาตัว จับยาก
แต่เดิมนั้นบ้านผาหมีเป็นพื้นที่ติดชายแดนชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพปลูกฝิ่น และเคยถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่สีแดงในการค้ายาเสพติด เป็นฐานที่มั่นการรบของผู้ค้ายาเสพติดกับกองกำลังทหาร ทำให้มีการสู้รบกันบ่อยครั้ง
กระทั่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เสด็จฯ มาพร้อมความมุ่งมั่นที่จะให้การช่วยเหลือกลุ่มชนเผ่าบนดอยผาหมี ด้วยการนำต้นกาแฟพระราชทานแก่ชาวบ้าน ที่นี่จึงกลายเป็นตำนานกำเนิดกาแฟต้นแรกของประเทศไทย ที่รัชกาลที่ 9 พระราชทานให้ พระองค์ทรงแนะนำอาชีพปลูกกาแฟ และการสร้างรายได้ จนกาแฟดอยผาหมีเป็นที่รู้จักในระดับโลก
กาแฟที่นี่มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะเรื่องกลิ่นที่หาได้บนดอยผาหมีแห่งนี้ที่เดียวเท่านั้น พื้นที่เพาะปลูกกาแฟอาราบิก้ากว่า 1,500 ไร่ ทำให้ปัจจุบันดอยผาหมีมีคาเฟ่เกิดขึ้นเพื่อรองรับ นักท่องเที่ยวสายชิม ช็อป ชม แชะ ชิล รวมถึงนักดื่มกาแฟจากทั่วสารทิศ
ตั้งแต่ทางเข้าหมู่บ้านนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับร้านกาแฟที่มีเครื่องดื่มอร่อยๆ หลากหลายชนิด เบเกอรี่และขนมแบบฉบับคนพื้นเมือง รวมถึงจุดทำคอนเทนต์สวยๆ ตามสไตล์การตกแต่งของแต่ละร้าน เช่น บันไดชมวิวสูง ระเบียงริมดอย และความอลังการที่แตกต่างกันออกไป
ไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดคือ การชิมกาแฟที่คั่วบดเอง จึงมีความหอมเย้ายวนใจ ให้รสชาติสดใหม่ทุกแก้ว ยิ่งในช่วงอากาศหนาวเย็นการดื่มกาแฟยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้เสพบรรยากาศหลักร้อย วิวหลักล้านมาก ส่วนใครที่ไม่ใช่คอกาแฟก็มีชา เป็นอีกหนึ่งพืชเกษตรที่โดดเด่นไม่แพ้กาแฟอาราบิก้า ทั้งชาแบบดั้งเดิม และชาที่มีรสชาติผลไม้ในราคาเป็นมิตร อร่อยเป็นกันเอง
มาถึงบ้านผาหมีแล้ว ต้องแวะบ้าน “พ่อหลวงซาเจ๊ะ” อดีตผู้ใหญ่บ้าน ของบ้านผาหมี ผู้จูงลาถวายขณะในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จฯ มา เพื่อช่วยชาวอาข่าเลิกปลูกฝิ่นและหันมาปลูกกาแฟ คอยเปิดบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยว บ้านที่เปรียบเสมือนพิพิธภัณฑ์
ภายในบ้านพ่อหลวงซาเจ๊ะตกแต่ง ด้วยภาพแห่งความประทับใจหลากหลายเหตุการณ์ มีจุดชมวิวที่งดงาม มีอาหาร ขนมกาแฟ เครื่องดื่มต่างๆ ให้ได้นั่งชิลเพลินๆ และมีชุดอาข่าให้เช่าใส่ถ่ายรูป มีร้านภูฟ้าซาเจ๊ะ เป็นมุมที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เคยประทับเสวยน้ำชา มีบ้านพักสไตล์โฮมสเตย์ไว้รับรอง ผู้มาเยือน
นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสธรรมชาติเส้นทางกาแฟตั้งแต่กาแฟต้นแรกในป่า ชมการเก็บเมล็ดเชอร์รี่กาแฟ ตลอดจนกระบวนการผลิตกาแฟสู่แก้วดริปเป็นกาแฟสด
ระหว่างทางชาวบ้านพาแวะลานวัฒนธรรม ให้นักท่องเที่ยวสนุกสนานกับ การโล้ชิงช้า ซึ่งประเพณีนี้จะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีเพื่อฉลองการเติบโตของพืชพันธุ์ธัญญาหาร และเป็นการบวงสรวงเซ่นไหว้บรรพบุรุษหรือเทพเจ้าแห่งสายฝนตามความเชื่อของชาวอาข่า ชมการแสดงการเต้นกระทุ้งกระบอกไม้ไผ่ที่เรียกว่า “บ่อ ฉ่อง ตุ๊”
ชิมอาหารท้องถิ่นของชาวอาข่า ไม่ว่าจะเป็นยำผักกวางตุ้งใส่งาขาวและถั่วบด หมูผัดรากชู น้ำพริกมะเขือเทศแนมกับผักเลื้อย กงมันอาลูใส่ผักกาดดองกระดูกอ่อน ลาบหมูสูตรอาข่า รสชาติดั้งเดิม อร่อยถูกปาก และไม่พลาดกับกิจกรรมเก็บส้มจากต้นสดๆ ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ และถ่ายภาพเก็บไว้ เป็นความทรงจำ การันตีด้วยว่าส้มที่นี่รสชาติหวานฉ่ำ อร่อยสมคำร่ำลือ
มาถึงบ้านผาหมีทั้งที ไม่มีของฝากติดไม้ติดมือกลับไปถือว่าพลาด! ไม่ว่าจะเป็นพริกไทยบด ชาป่าสมุนไพร ถุงผ้าและเสื้อสกรีน ผ้ารองโต๊ะสำหรับชุดกาแฟที่ทำมาจากผ้าท้องถิ่นซึ่งหาได้จากที่นี่ที่เดียว เป็นการนำจุดเด่นที่เป็นอัตลักษณ์ของชุมชนออกมาพัฒนาต่อยอด ให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค การันตีได้เลยว่าสินค้าทุกชิ้นมีคุณภาพและความแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร
การเดินทางมาเที่ยวที่บ้านผาหมีนั้นสะดวกสบายจากตัวเมืองแม่สายให้ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 หรือถนนพหลโยธินมุ่งหน้าไปยัง ต.เวียงพางคำ พอถึงร้านอาหารจันกะผัก หรือศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริให้สังเกตทางแยกด้านซ้ายมือจะมีป้ายบอกทางขึ้นไปบ้านดอยผาหมีขับตรงตามทางไปราว 4-5 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีก็ถึง ที่หมายแล้ว สามารถไปเช้ากลับเย็น หรือจะค้างคืนก็ได้
ใครที่กำลังมองหาโลเกชั่นพักผ่อนหย่อนใจโดยเฉพาะช่วงเดือนธ.ค.-ม.ค.ที่อากาศหนาวเย็นหรือเทศกาลวันหยุดต่างๆ ขอฝากหมู่บ้านผาหมีไว้ให้ไปเช็กอินฟินๆ กันนะจ๊ะ
พรพิมล แย้มประชา
The post สูดโอโซน‘ดอยผาหมี’ สัมผัสเสน่ห์วิถีชาวอาข่า appeared first on ข่าวสด.