เมื่อวานนี้คุณสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี และโฆษกกรมสรรพากร ให้ข้อมูลในรายการ The Morning Wealth ถึงแนวทางการจัดเก็บภาษีคริปโต (ช่วงนาทีที่ 33 เป็นต้นไป) โดยระบุว่าการคิดภาษี เป็นการคิดภาษีเงินได้ คิดจากการทำธุรกรรมคริปโตทุกรายการ (transactions) ที่มีกำไรเป็นเงินสด
หากตีความจากคำอธิบายนี้ สมมุติว่าผู้เสียภาษีทำการแลกเปลี่ยนบนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน 10 รายการในปีนั้น โดยขายเหรียญได้กำไรเป็นเงินสด (THB) 5 รายการ รวม 200,000 บาท แต่อีก 5 รายการ ขายเหรียญแล้วขาดทุน 500,000 บาท รวมทั้งปีผู้เสียภาษีขาดทุนจากการแลกเปลี่ยนรวม 300,000 บาท ภาษี 15% นั้นก็จะต้องระบุเงินได้เพื่อเสียภาษีจากกำไร 200,000 บาทอยู่ดี แม้ยอดรวมทั้งปีจะขาดทุน หรือแม้จะยังไม่ได้ถอนเงินบาทออกมาจากพอร์ตบนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนก็ตาม เนื่องจากสรรพากรถือว่าการสั่งขายเป็นเงินได้ทันที แม้จะยังไม่ได้ถอนเงินออกมา
ทั้งนี้กรมสรรพากรระบุว่ามี Big Data และ Data Analytic มาช่วยในการวิเคราะห์ หากผู้เสียภาษีอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะเสียภาษีไม่ถูกต้อง ผู้เสียภาษีอาจต้องทำการพิสูจน์ว่าการยื่นแบบเสียภาษี ต่ำกว่าความเป็นจริงหรือไม่ ถ้าต่ำกว่าก็ต้องชำระเพิ่มในส่วนที่ยื่นขาด และยังต้องเสียดอกเบี้ยร้อยละ 1.5 ต่อเดือน ในส่วนที่ยื่นขาด และกำลังประสานกับผู้ให้บริการแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการนำส่งข้อมูลภาษีของผู้ซื้อและผู้ขายให้กับกรมสรรพากร
ที่มา - คุณสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ ในรายการ The Morning Wealth นาที่ที่ 33.11