ดราม่าร้อน #พี่ตูนวิ่งทำไม บนโลกโซเชียล เหล่าคนดังร่วมแสดงความคิดเห็น
วันที่ 22 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม ได้โพสต์อินสตาแกรมส่วนตัว เชิญชวนทุกคนสานต่อกิจกรรมวิ่ง ก้าวเพื่อน้องเวอร์ชวลรัน ในปี 2563 ในชื่อ “ก้าวเพื่อน้องเวอร์ชวลรัน 109 คำขอบคุณ” ซึ่งรายได้ทั้งหมดจะนำไปสนับสนุนเด็กที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แต่ยังไม่มีทุนเพื่อศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือสายวิชาชีพ ทั้งหมด 109 คน
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของพี่ตูน ส่งผลให้เกิดกระแสดราม่าในโลกโซเชียลจนเกิด #พี่ตูนวิ่งทำไม ที่ชาวเน็ตและดาราคนดังต่างตั้งคำถามต่อเรื่องนี้ “ประชาชาติธุรกิจ” ได้รวบรวมความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าว ดังนี้
ณวัฒน์ ลั่นช่วยเหลือเด็กเป็นหน้าที่ ศธ.
นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานและผู้ก่อตั้ง Miss Grand International โพสต์ข้อความถึง ตูน บอดี้สแลม ผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า การช่วยเหลือเป็นสิ่งที่ดี แต่การพัฒนาการศึกษาเป็นหน้าที่ของรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ เนื่องจากได้งบประมาณจากภาษีของประชาชน อีกทั้งเด็กที่ลำบากในประเทศไทย ไม่ได้มีเพียง 109 คน
“การช่วยเหลือเป็นสิ่งที่ดีแต่หน้าที่การช่วยเหลือและพัฒนาการศึกษา เป็นหน้าที่ของรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ เพราะได้งบประมาณจากภาษีพวกเราไปปีละมหาศาล งบประมาณที่ได้ไปไปไหนหมดครับ”
“และที่สำคัญน้องในประเทศไทยที่ลำบากไม่ได้มีเพียงแค่ 109 คน แต่ลำบากกันหลายสิบล้านคน ถ้าอยากจะช่วย ช่วยเดินไปบอกนายกฯและรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาฯให้พัฒนาการศึกษาและให้โอกาสการศึกษาแก่คนอย่างทั่วถึงดีกว่าครับ เพราะถ้ารัฐบาลไม่ช่วยเหลือต่อให้วิ่งอีก 100 รอบ ผลลัพธ์ก็ยังคงเท่าเดิม ขอบคุณเครดิตตามภาพครับ”
พิธีกรดัง เปิดคอมเมนต์จาก EFM
นารากร ติยายน พิธีกรชื่อดัง โพสต์ถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า เมื่อพี่ตูนออกมาชวนวิ่งขอรับบริจาคเงินอีกครั้ง คราวนี้อะไร ๆ ก็ไม่เหมือนเดิม หลังจาก 2 ปีที่ผ่านมา เหล่าบรรดานักดนตรี คนทำงานกลางคืน เดือดร้อนจากการ lockdown แต่พี่ตูนไม่เคยออกมาพูด หรือเรียกร้องเพื่อเหล่าเพื่อนๆ นักดนตรีเลย ไปอ่านคอมเมนต์ในเพจ EFM ความเห็น 90% ไม่เอาด้วยกับการวิ่งขอรับบริจาคแล้ว
ปล.คอมเมนต์มีเป็นหมื่น แคปมาไม่หมด ใครอยากอ่านเชิญที่เพจ EFM Station ได้เลยค่ะ
ตัวอย่างจากคอมเมนต์ในเพจ EFM เช่น “ถ้าวิ่ง 250 กิโล เพื่อขอเงินเดือนทั้งหมดจาก ส.ว. 250 คน เอามาเป็นทุนการศึกษาให้น้อง ๆ ที่ด้อยโอกาส ผมจะไปวิ่งด้วยครับ”
“ทำไมไม่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลคะ”
“รับบริจาคจากประชาชนที่ตอนนี้กำลังลำบาก แทนที่จะใช้พลังเสียงที่มีกดดันให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบและแก้ไข การรับบริจาคเป็นเรื่องดี แต่เราจะแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ จริงหรือ ?”
ยิ่งชีพ แนะวิ่งร่าง รธน.ใหม่
นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ จากไอลอว์ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรมุ่งแก้กฎหมายให้คนเท่าเทียมกัน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า เห็นข่าวพี่ตูน เตรียมวิ่ง 109 กิโลเมตร เพื่อช่วยหาทุนการศึกษาให้นักเรียนที่จบ ม.3 แล้วยังไม่มีเงินเรียนต่อ ก็ “จุกอก” นึกย้อนไปถึง #รัฐธรรมนูญ ของเรา และช่วงรณรงค์ประชามติปี 2559
1.รัฐธรรมนูญปัจจุบัน ไม่เขียนให้ประชาชนมีสิทธิได้รับการศึกษาฟรี แต่เขียนเป็น “หน้าที่ของรัฐ” ว่า รัฐต้องให้เรียนฟรี 12 ปี โดยระบุเลยว่า นับตั้งแต่ “ก่อนวัยเรียน” ไม่ใช่ตั้งแต่ ป.1 ทำให้เมื่อนับไป 12 ปี จะจบการเรียนฟรีที่ ม.3
ขณะที่ฉบับปี 2540 เขียนไว้ชัดเจนว่า บุคคลมีสิทธิเสมอกันในการรับ “การศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่าสิบสองปี” ที่รัฐจะต้องจัดให้โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย และตาม พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 ก็กำหนดไว้ชัดเจนว่า “การศึกษาขั้นพื้นฐาน” หมายความว่า ป.1-ม.6 รัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 49 กำหนดว่า บุคคลมีสิทธิเสมอกันในการรับ “การศึกษาไม่น้อยกว่าสิบสองปี” ที่รัฐจะต้องจัดโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย
ซึ่งรัฐธรรมนูญปี 2550 ตัดคำว่า “ขั้นพื้นฐาน” ออก เปิดช่องให้ตีความเพิ่มได้ว่า การศึกษาสิบสองปีนั้นเริ่มจากเมื่อใดถึงเมื่อใดบ้าง https://ilaw.or.th/node/4209
มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. ต่อเหตุผลของการเขียนมาตรา 54 เช่นนี้ว่า ทุกวันนี้ระบบการศึกษาไม่ทัดเทียมกัน เพราะเด็กจะพัฒนาได้ต้องอยู่ระหว่าง 2-5 ขวบ ซึ่งคนมีตังค์ได้รับการพัฒนา แต่คนจนไม่ได้รับการพัฒนา เพราะฉะนั้นพอถึงมัธยมปลายก็เสียเปรียบ สู้กันไม่ได้เพราะตอนนั้นสมองไม่พัฒนาแล้ว สิ่งที่เราทำก็คือการร่น 12 ปีลงมาข้างล่างเพื่อรองรับคนจน
แล้วพอถึงมัธยมปลาย คนจนก็จะได้รับการดูแลเพราะจะมีกองทุนการศึกษาให้ ส่วนคนมีสตางค์ก็ออกสตางค์ เพราะฉะนั้นความทัดเทียมถึงจะเกิดขึ้นได้จริง https://prachatai.com/journal/2016/03/64959
อะไรดีไม่ดีกว่ากันอาจคิดเห็นต่างกันไปได้ แต่สรุปได้ว่า มีชัยจงใจเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อเปลี่ยนการเรียนฟรีจาก ป.1-ม.6 เดิม มาเป็น อนุบาล-ม.3 ด้วยความคิดของเขา
2.เรื่องนี้เคยเป็นดีเบตใหญ่ก่อนทำประชามติ เพราะฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยก็มองว่ารัฐธรรมนูญนี้จะทำให้สิทธิการศึกษาฟรีหดสั้นลง ควรให้เรียนฟรีอย่างน้อยจบ ม.ปลาย หรืออาชีวะ ไม่ใช่ตัดแค่ ม.3 แล้วไปเพิ่มเรียนฟรีอนุบาล เพราะคนที่รายได้น้อยต้องการเลื่อนชนชั้นผ่านระบบการศึกษา การเรียนให้จบสูงมีความหมาย หากให้จบแค่ ม.3 ก็คือต้องเป็นชนชั้นแรงงาน ทำงานได้ค่าแรงขั้นต่ำตลอดไป
คนหนึ่งที่พูดเรื่องนี้บ่อยมาก ตอนนั้นเรียนอยู่แค่ ม.5 เลยต้องพูดแทนเด็กนักเรียน ม.ปลายตลอด และผมรู้สึกผิดมากว่า เราให้เด็กพูดเรื่องนี้ สู้เรื่องนี้แทนคนทั้งประเทศมากเกินไป คือ เพนกวิ้น พริษฐ์ ชิวารักษ์ ที่ตอนนี้อยู่ในคุก https://prachatai.com/journal/2016/06/66356
ขณะที่บรรยากาศการทำประชามติตอนนั้น เงียบงัน ตกอยู่ในความหวาดกลัว อีกคนที่เขียนเรื่องนี้ออกมารณรงค์เป็นจริงเป็นจังผ่านตัวอักษร คือ ส.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ที่ร่างจดหมายหนึ่งหน้า มีเรื่องการตัดสิทธิเรียนฟรีถึงแค่ ม.3 ด้วย แล้วส่งจดหมายเป็นหมื่นฉบับไปให้ประชาชนในเขตภาคเหนือ แล้วก็ถูก คสช.จับ เอาตัวขึ้นศาลทหาร ไม่ได้ประกัน ต้องเข้าคุกจริงๆ 21 วัน https://tlhr2014.com/archives/16661
แล้วดอกผลของการรณรงค์ไม่ได้ในวันนั้นก็เบ่งบานออกมาในวันนี้
3.อย่างไรก็ดี คสช.กลัวเสียคะแนนเพราะการไปตัดสิทธิเรียนฟรี จึงใช้อำนาจ #ม44 ออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 28/2559 สั่งให้ “เรียนฟรี 15 ปี” เขียนมันสวนทางกับรัฐธรรมนูญของตัวเองไปเลยว่า ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานดําเนินการจัดการศึกษา ขั้นพื้นฐาน 15 ปี ให้มีมาตรฐานและคุณภาพ โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย
คำสั่งนี้ไม่เคยถูกยกเลิกอย่างเป็นทางการ และไม่ได้อยู่ในลิสต์ของประกาศที่เรารณรงค์ให้ยกเลิกด้วย ก็ไม่รู้ทำไมว่า มันไม่ถูกบังคับใช้แล้วเหรอ ?? มันหายไปไหนเหรอ ?? หรือมันเป็นแค่แผ่นกระดาษโกหกพกลม ที่จริง ๆ แล้วนักเรียนจบ ม.3 แล้วยังไปต่อไม่ได้ …
ระดับพี่ตูนแล้ว ออกวิ่งเพื่อช่วยนักเรียน 109 คน ไม่น่าจะยากเกินไป น่าจะระดมทุนได้ภายในระยะเวลาไม่นาน ไม่ต้องไปช่วยกันเยอะ ๆ ก็คงระดมทุนได้ไม่ยาก แต่ถ้าพี่ตูนอยากจะเปลี่ยนเป็นออกวิ่งเพื่อการ #เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ก็น่าจะช่วยคนที่เข้าสู่ระบบการศึกษาในวันนี้และอนาคตได้อีกหลักล้านคน
ถ้าวิ่งไปก็รับบริจาคไปด้วยก็ได้ เก็บได้เท่าไรก็ช่วยคนเท่าที่ช่วยได้เฉพาะหน้าไปก่อน แต่ถ้าตั้งเป้าหมายหลักชัย “แสงสุดท้าย” ไว้ที่การช่วยคนให้ได้ทุกคนพร้อม ๆ กันอย่างไม่เลือกหน้า และยืนยันเสรีภาพของทุกคนที่จะรณรงค์คัดค้านกับความคิดของคนมีอำนาจ อันนั้นก็จะพยายามฟิตร่างกายไปวิ่งด้วยครับ
ไอซ์ รักชนก “วิ่งบ่อย ๆ เท่จะตาย”
ด้าน ไอซ์ นางสาวรักชนก ศรีนอก นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ @nanaicez ระบุว่า “ชั้นว่าพี่แกก็รู้แหละว่าวิ่งให้ตายก็ช่วยแก้ปัญหาระดับโครงสร้างในประเทศไม่ได้ นี่ว่าเค้าไม่ได้สนใจจะแก้อะไรพวกนั้นอยู่แล้ว เค้าทำแค่นี้แล้วเค้าได้ภาพเป็นคนดีทำเพื่อสังคม ได้ชื่อเสียงได้รับการยกย่อง ก็ต้องการแค่นี้ สังคมยิ่งแย่ยิ่งเหลื่อมล้ำสิยิ่งดีซะอีก จะได้วิ่งบ่อย ๆ เท่จะตาย”
ชั้นว่าพี่แกก็รู้แหละว่าวิ่งให้ตายก็ช่วยแก้ปัญหาระดับโครงสร้างในประเทศไม่ได้ นี่ว่าเค้าไม่ได้สนใจจะแก้อะไรพวกนั้นอยู่แล้ว เค้าทำแค่นี้แล้วเค้าได้ภาพเป็นคนดีทำเพื่อสังคม ได้ชื่อเสียงได้รับการยกย่อง ก็ต้องการแค่นี้ สังคมยิ่งแย่ยิ่งเหลื่อมล้ำสิยิ่งดีซะอีกจะได้วิ่งบ่อยๆ เท่จะตาย
— ไอซ์ (@nanaicez) December 21, 2021
หมอของขวัญ “พี่ตูนแป้กแน่”
ในขณะที่หมอของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ หรือ หมอเคท ศัลยแพทย์ชื่อดัง ก็ร่วมทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ @doctorkatekate ระบุว่า “#พี่ตูนแป้กแน่ #พี่ตูนวิ่งทำไม ครั้งนี้พี่จะไม่ใช่ฮีโร่เหมือนครั้งที่แล้วแล้วนะพี่ตูนนนนนนนนน”
#พี่ตูนแป่กแน่ #พี่ตูนวิ่งทำไม ครั้งนี้พี่จะไม่ใช่ฮีโร่เหมือนครั้งที่แล้วแล้วนะพี่ตูนนนนนนนนน
— หมอของขวัญ
(DoctorKateKate) (@doctorkatekate) December 21, 2021
อดีตมือกีตาร์บอดี้สแลม ฟาดกลับ
ล่าสุด รัฐพล พรรณเชษฐ์ หรือ เภา อดีตมือกีตาร์วงบอดี้สแลม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Rattapol Phanchet ระบุว่า “แซะตามกัน จนไม่ดูว่าอะไรจริงอะไรไม่จริง ไม่มีใครเถียงว่าระบบที่ดีย่อมดีกว่าแน่นอน แต่การกุศลมันกลายเป็นผู้ร้ายตั้งแต่เมื่อไหร่ มีประเทศไทยประเทศเดียวเหรอที่มีการรับบริจาค ? ประเทศที่เจริญแล้วเค้าไม่มีมูลนิธิหรืองานการกุศลหรือยังไง ?
กับคนที่ไม่เห็นด้วยกับงานกุศลตั้งแต่ต้นยังเข้าใจได้ แต่พวกที่แซะตามกระแส ด่าตาม ๆ กัน แค่สนุกปากคืออะไร ? แล้วคนที่หาว่าเค้าทำเพื่อเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง หาหลักฐานมาพิสูจน์ด้วยนะครับ ไม่ใช่ไปกล่าวหาเค้าลอย ๆ เพราะถ้าไม่เป็นความจริง เค้าฟ้องคุณได้นะ”
อ่านข่าวต้นฉบับ: หลากความเห็นคนดัง #พี่ตูนวิ่งทำไม