เคล็ดลับดูแลเท้าและรองเท้าในช่วงน้ำท่วม

แม้ว่าคุณจะไม่ได้เผชิญน้ำท่วมระดับสูง แค่น้ำท่วมขังหรือน้ำเจิ่งนองตามท้องถนนที่คุณต้องผ่านในแต่ละวันๆ ก็ทำให้คุณเกิดปัญหาเชื้อราที่ฝ่าเท้าได้ทั้งนั้น

ภาพจาก : sanook.com

  • ดูแลให้เยอะเข้าไว้ค่ะเพราะต้องรับศึกหนักอย่างมากมายในช่วงน้ำท่วม สาวๆ หลายท่านมักละเลยกับการดูแลฝ่าเท้าอยู่แล้วเป็นทุนเดิม แต่ตอนนี้จะทำเช่นนั้นไม่ได้แล้วนะคะ
  • แม้ว่าคุณจะไม่ได้เผชิญน้ำท่วมระดับสูง แค่น้ำท่วมขังหรือน้ำเจิ่งนองตามท้องถนนที่คุณต้องผ่านในแต่ละวันๆ ก็ทำให้คุณเกิดปัญหาเชื้อราที่ฝ่าเท้าได้ทั้งนั้น การดูแลความสะอาดและการรักษาฝ่าเท้า ง่ามนิ้ว ตลอดจนการเลือกรองเท้าจึงเป็นสิ่งที่ต้องทำไปพร้อมๆ กัน
  • รองเท้าที่คู่ควรกับภาวะน้ำเยอะต้องยกให้รองเท้ายางกับรองเท้าพลาสติกค่ะ อย่าคิดว่ามีแต่รองเท้าบู๊ทลุยน้ำสีโทนมืดอย่างเดียวนะคะ เดี๋ยวนี้มีการสร้างสรรค์ออกมาหลายรูปแบบที่ทันสมัยและใช้งานได้หลายโอกาส ทั้งใส่ไปทำงาน ไปเที่ยว และลำลองอย่างรองเท้าแตะ ลองหามาใส่กันได้ จะได้พร้อมเดินทุกที่อย่างไม่หวาดหวั่น
  • ส่วนรองเท้าส้นสูงที่สาวๆ ชอบใส่กันนั้นอยากจะแนะนำว่าไม่ค่อยเหมาะนักถ้าคุณต้องลุยผ่านน้ำขังในหลายๆ จุดนอกจากจะยากต่อการทรงตัวแล้วยังมีโอกาสลื่นล้มได้ง่ายกว่ารองเท้าพื้นแบน
  • แต่ถ้าจำเป็นต้องใส่ส้นสูงจริงๆ ก็แนะนำว่าไม่ควรใส่ส้นให้สูงเกิน 1.5 นิ้ว และควรเป็นทรงเตารีดพร้อมมีสายรัดส้นด้วย ยิ่งใส่สูงนิ้วเท้าของคุณจะยิ่งงุ้มเกร็งเวลาเดินบนถนนลื่นๆ น้ำที่ขังอยู่ก็อาจเข้ามาในพื้นรองเท้าทำให้ต้องคอยเกร็งคอยระวังมากขึ้นไปอีก สเต็ปการเดินของคุณอาจดูผิดธรรมชาติไป ส่งผลเสียต่อกล้ามเนื้อขา หลัง และบุคลิก

ภาพจาก : prachachat.net

  • พื้นรองเท้าก็สำคัญนะคะควรยึดเกาะพื้นถนนได้ดี กล่าวคือด้านใต้รองเท้าควรเป็นพื้นที่มีลวดลายหรือมีผิวขรุขระเล็กน้อย ยิ่งเป็นพื้นยางหรือพลาสติกจะยิ่งเวิร์คมาก
  • พื้นด้านในรองเท้าก็ด้วยค่ะ เลือกแบบที่ไม่นิ่มและไม่แข็งจนเกินไป ที่สำคัญต้องกระชับกับฝ่าเท้า ใส่แล้วจะได้ไม่ลื่นเวลาโดนน้ำ
  • ส่วนสาวๆ ที่จำเป็นต้องใส่รองเท้าชนิดผ้า คุณต้องมั่นใจในความแห้งและความสะอาดนะคะ ถุงเท้าที่ใส่ก็เช่นกันอย่าปล่อยให้มีกลิ่นอับจากความชื้นของเหงื่อ เชื้อโรค และน้ำที่คุณเดินลุยมา
  • สำหรับรองเท้าผ้าใบที่ผ่านการจมน้ำมาแล้ว ขอแนะนำให้ซักทำความสะอาดแล้วเช็ดด้วยผ้าแห้ง จากนั้นก็นำไปตากผึ่งลมให้แห้งแล้วนำไปตากแดดอ่อนๆ อีกครั้งหนึ่งเพื่อความแห้งที่ชัวร์กว่า
  • การทาแป้งก็เป็นอีกทางที่ช่วยป้องกันความเปียกชื้นให้กับผิวหนังได้ แต่ต้องทาบางๆ ในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่อย่างนั้นแล้วอาจทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ขึ้นมาแทน ทั้งนี้เป็นเพราะแป้งดูดเอาความชื้นจากเหงื่อมาไว้บนผิวหนัง เมื่อสะสมมากๆ ที่ผิวหนังก็เกิดเป็นเชื้อรา เมื่อเชื้อราผสมกับความชื้นแฉะที่คุณไปลุยน้ำมา ทั้งกลิ่นสิ่งสกปรก กลิ่นสีและกลิ่นสารเคมีของรองเท้าเลยปนเปกลายเป็นกลิ่นที่น่าวิงเวียน
  • คุณจึงควรพกกระดาษทิชชู่แห้ง ทิชชู่เปียก และสบู่ติดกระเป๋าไว้จะได้ใช้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเมื่อต้องเดินลุยน้ำลุยโคลน ไม่ว่าจุดหมายปลายทางจะอยู่ไกลแค่ไหนคุณก็จะไปต่อกับรองเท้าคู่กายได้อย่างสบายใจ

ขอขอบคุณ ที่มา : Spicy