ภาพจาก : venturetec.co.th
ซูชิถูกมองว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพมาตลอด แต่ชั่วโมงนี้ผู้เชื่ยวชาญด้านอาหารจากมหาวิทยาลัยลีดส์ เมโทรโพลิแทน ของอังกฤษกลับออกมาสวนกระแส บอกว่าความจริงซูชิก็มีพิษภัยที่คนรักสุขภาพต้องระวังเหมือนกัน
อย่าไว้ใจโคเลสเตอรอล แฟนคลับซูชิมักเหมารวมว่าซูชิทุกหน้าคือสิ่งดีๆ ที่ร่างกายต้องการ แต่ความจริงแล้วในบรรดาผองเพื่อนซูชิทั้งหมดมีแกะดำอยู่ตัวหนึ่ง นั่นคือซูชิหน้าไข่ปลา ถึงแม้เนื้อปลาจะอุดมไปด้วยโอเมก้า 3 แต่ไข่ของมันเป็นที่รวมของโคเลสเตอรอล คนที่ไม่อยากอ้วน ไม่อยากเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตัน จึงต้องลดละเลิกเซย์กู๊ดบายกับซูชิหน้านี้ หรือถ้ากดไลค์ให้ใจกันมานานจนเลิกกินไม่ได้ ก็ควรเว้นวรรคเป็นนานๆ กินที โคเลสเตอรอลจะได้ไม่เหิมเกริม
เกลือ/น้ำตาลมาพร้อม รู้สึกใช่ไหมว่าซูชิมักมีรสหวานอมเปรี้ยว นั่นเป็นเพราะก่อนจะปั้นข้าวเป็นก้อน แม่ค้าจะต้องปรุงรสข้าวด้วยน้ำตาลกับน้ำส้มก่อน คนที่คิดว่าจะไม่เจอน้ำตาลในซูชิจึงคิดผิดไปเต็มๆ สิ่งที่คนรักซูชิมักพลาดอีกอย่างหนึ่งคือลืมคิดถึงปริมาณเกลือในซอสถั่วเหลือง มีการคำนวณว่าซอสถั่วเหลืองที่ทางร้านแถมให้ 1 ถุง มีโซเดียม 1 กรัม ถ้าคุณจุ่มซอสปริมาณ 3-4 ถุง ก็จะได้โซเดียม 3-4 กรัมแล้ว คนที่กินอาหารญี่ปุ่นบ่อยๆ จึงมีโอกาสเสี่ยงที่จะได้เจ๊าะแจ๊ะกับโรคไตมากกว่าคนที่ชอบกินส้มตำน้ำตกมากนัก
Tip : ร่างกายคนเราไม่ควรได้รับเกลือเกินวันละ 6 กรัม
ภาพจาก : venturetec.co.th
สารปรอทอันตราย วารสาร Biology Letters ในอังกฤษเคยตีพิมพ์ผลวิจัยว่า หน้าปลาทูน่าซึ่งมีขายตามร้านอาหารและซูเปอร์มาร์เก็ตในสหรัฐมีสารปรอทสูงเกินระดับมาตรฐาน สารปรอทพวกนี้มาจากการแช่แข็งปลาก่อนเอามาแล่ ยิ่งถ้าเป็นปลาที่ต้องซื้อจากเมืองนอก เช่น ทูน่า ปลาค็อด แซลมอน ก็ยิ่งมีโอกาสถูกดองด้วยสารเคมีมากขึ้น ถ้าเราได้รับสารปรอทมากเกินไปจะทำให้ระบบประสาทเป็นอัมพาต สมองเสียหาย หูหนวกหรือตาบอดได้ คนที่อินเลิฟกับซูชิหน้าทูน่าสด งานนี้เห็นทีต้องตัดใจซะแล้ว
เฮลโลพยาธิตัวกลม เนื้อที่ไม่สุกหรือสุกๆ ดิบๆ มักจะมีพยาธิ ไม่เว้นแม้แต่ในเนื้อปลาสดที่ใช้ทำซูชิ พยาธิตัวกลมจากซูชิเป็นพยาธิที่ไม่ตายเมื่อถูกน้ำย่อยแต่มันจะเกาะอยู่ที่เยื่อบุกระเพาะอาหารและลำไส้ ทำให้เกิดอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และท้องร่วงตามมา
Tip : การแช่แข็งเนื้อปลาสดที่อุณหภูมิลบ 20 องศาเซลเซียส เป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมง จะทำให้พยาธิตาย
แบคทีเรีย ซูชิที่วางขายอยู่ริมถนนอาจมีแบคทีเรียชนิดที่เรียกว่า "สตาไฟโลค็อกคัส ออรีอุส" ซึ่งจะเกิดจากการที่ข้าวปั้นซึ่งมีน้ำตาลกับน้ำส้มเป็นส่วนประกอบถูกวางทิ้งไว้นานหลายชั่วโมง แบคทีเรียจะแบ่งตัวไปเรื่อยๆ ตามเวลาที่ผ่านไปคนที่ซื้อไปจึงต้องเตรียมใจรับอาการอาหารเป็นพิษไว้ด้วย ถ้าคุณชอบอาหารญี่ปุ่น ซูชิที่ขายในห้างมีฉลากบอกวันหมดอายุและเก็บแช่ไว้ในตู้เย็น น่าจะเป็นตัวเลือกที่ฉลาดกว่า
ขอขอบคุณ ที่มา : Spicy