ภาพจาก : sanook.com
ถึงของหวานๆ จะเย้ายวนกวนกิเลสนัก แต่ถ้าทำตามวิธีต่อไปนี้ ความหวานก็ทำอะไรคุณไม่ได้
1.ใน 1 วันนักไดเอทไม่ควรจะกินมากกว่า 1,200 แคลอรี ถ้าของหวานของคุณมีแคลอรีสูงนัก งั้นก็เปลี่ยนมื้อเย็นให้เป็นสลัดผักที่มีแคลอรีต่ำสิ จำนวนแคลอรีที่เหลือก็เอาไว้กินของหวานให้ชุ่มปากไปเลยแทนที่จะกินของหวานมั่วไปหมด ก็พยายามเลือกให้เป็นอะไรที่ดีต่อสุขภาพ และแคลอรีไม่สูงมาก เช่น ผลไม้ราดวิปครีม หรือไอศกรีมไขมันต่ำ
2.มีผลการวิจัยบอกว่า ถ้าอดใจไม่กินของหวานได้ติดต่อกันถึง 2 สัปดาห์ ความอยากก็จะหายไปเอง ก็ต้องขึ้นอยู่กับความอึดของสาวๆ แล้วล่ะว่าจะทนได้หรือเปล่า
3.เอาความหวานของงผลไม้มาทดแทน ถ้าทานผลไม้ให้มากขึ้น ความอยากของหวานๆ ก็จะน้อยลงไปเอง
4.ถ้าจะกินให้ได้จริงๆ ควรจะลดปริมาณของหวานลงครึ่งหนึ่ง เช่น ปกติทานไอศกรีม 3 ก้อนก็กินแค่ก้อนเดียว กินช็อกโกแลต 2 แท่งก็กินแค่แท่งเดียวทุกวันนี้ขนมแทบทุกอย่างมีตัวตายตัวแทนเป็นของแคลอรีต่ำหมดแล้ว เช่น ไอศกรีมไม่มีไขมัน ช็อกโกแลตไขมันต่ำ เค้กแบบไขมันต่ำ ถ้ากินแบบนี้ถึงไม่ต้องอดของหวานแต่ก็สกัดความอ้วนไว้ได้
ภาพจาก : ofm.co.th
5.ใช้ความพอใจในด้านอื่นมาชดเชย เช่น ถ้าอยากกินของหวานก็ให้ดมดอกไม้หอมๆ แทนเพราะประสาทส่วนที่รับความพึงพอใจจะทำงานเหมือนๆ กัน จึงจะช่วยลดความอยากลงได้
6.มีลูกอม น้ำ หรือ หมากฝรั่งน้ำตาลต่ำติดโต๊ะไว้ ถ้าอยากกินของหวานก็คว้าใส่ปากเคี้ยวแก้ขัดแทน
7.จิบน้ำชาอุ่นๆ ใส่น้ำตาลเทียมครึ่งซองในระหว่างวัน จะช่วยให้รู้สึกสบายท้องและผ่อนคลายขึ้น เป็นการพบกันครึ่งทางกับความอยากที่กำลังรบกวนจิตใจอยู่
8.ทำของหวานกินเอง เช่น เอาช็อกโกแลตไปต้มให้ละลายแล้วเอามาจุ่มสตรอเบอร์รี่ จากนั้นก็แช่เย็นไว้ให้ช็อกโกแลตแข็งตัว เวลาอยากของหวานก็หยิบมากินครั้งละ 2 ลูก ด้วยวิธีนี้สาวๆ จะได้กินของชอบสมใจแต่ปริมาณน้อยลง เพราะช็อกโกแลตที่เคลือบผิวสตรอเบอร์รี่อยู่น่ะมีนิดเดียวเท่านั้นเอง
ขอขอบคุณ นิตยสารเรื่องผู้หญิง