พลับพลึงตีนเป็ด สรรพคุณและประโยชน์

ต้นพลับพลึงตีนเป็ด เป็นพันธุ์ไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชีย จัดเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก มีความสูงของต้นประมาณ 0.5 เมตร ลำต้นมีหัวอยู่ใต้ดิน หัวมีลักษณะเป็นกลีบ ๆ เรียงเวียนเป็นวงซ้อนอัดกันแน่นเป็นลำต้นเทียม เติบโตเป็นช่อชู ส่วนของใบขึ้นมาอยู่เหนือดินและแตกเป็นกอ ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการแยกกอและวิธีการเพาะเมล็ด

พลับพลึงตีนเป็ด สรรพคุณและประโยชน์

พลับพลึงตีนเป็ด ชื่อสามัญ Spider lily, Giant lily

พลับพลึงตีนเป็ด ชื่อวิทยาศาสตร์ Hymenocallis littoralis (Jacq.) Salisb. จัดอยู่ในวงศ์พลับพลึง (AMARYLLIDACEAE)

สมุนไพรพลับพลึงตีนเป็ด มีชื่อเรียกอื่นว่า “พลับพลึง กทม.”

ลักษณะของพลับพลึงตีนเป็ด

ต้นพลับพลึงตีนเป็ด เป็นพันธุ์ไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชีย จัดเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก มีความสูงของต้นประมาณ 0.5 เมตร ลำต้นมีหัวอยู่ใต้ดิน หัวมีลักษณะเป็นกลีบ ๆ เรียงเวียนเป็นวงซ้อนอัดกันแน่นเป็นลำต้นเทียม เติบโตเป็นช่อชู ส่วนของใบขึ้นมาอยู่เหนือดินและแตกเป็นกอ ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการแยกกอและวิธีการเพาะเมล็ด สามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินทั่ว ๆ ไป ชอบความชื้นสูง ชอบแสงแดดเต็มวันและแสงแดดแบบรำไร สามารถทนแล้งและทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดี หากต้องการให้ออกดอกมากให้ปลูกกลางแจ้ง แต่ถ้าต้องการให้มีใบสวยงามให้ปลูกในพื้นที่ที่มีแสงแดดรำไร

ใบพลับพลึงตีนเป็ด ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับถี่รอบลำต้น ลักษณะของใบเป็นรูปใบหอกแกมรูปขอบขนาน ปลายใบเรียวมนถึงแหลมทู่ โคนใบแผ่เป็นกาบหุ้มลำต้น ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 4-5 เซนติเมตรและยาวประมาณ 100-120 เซนติเมตร ปลายใบอ่อนโค้งลง แผ่นใบหนาสีเขียวเป็นมัน

ดอกพลับพลึงตีนเป็ด ออกดอกเป็นช่อแบบช่อซี่ร่มที่กลางต้น แต่ละช่อมีดอกอยู่ประมาณ 4-8 ดอก ดอกเป็นสีขาวและมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ก้านช่อดอกแข็งและค่อนข้างแบน มีความยาวประมาณ 30-45เซนติเมตร (บ้างว่าประมาณ 50 เซนติเมตร) ดอกย่อยจะเกิดแบบเดี่ยว ๆ บนปลายก้านของดอกย่อย ดอกมีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ ลักษณะเป็นรูปเรียวยาว ส่วนกลีบดอก โคนกลีบดอกติดกันเป็นหลอด ปลายกลีบแยกเป็นแฉก 6 แฉก มีส่วนที่ยื่นออกมาเป็นรูปแถบเรียวเล็ก เมื่อดอกบานเต็มที่แล้วจะมีขนาดกว้างประมาณ 8-10 เซนติเมตร (บ้างว่าประมาณ 15-20 เซนติเมตร) สามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี แต่จะออกดอกมากในช่วงฤดูฝน

ผลพลับพลึงตีนเป็ด ผลเป็นแบบแห้งแตก (Capsule) ภายในผลมีเมล็ดลักษณะกลมสีดำ

ภาพจาก thaiherbal.org

สรรพคุณและประโยชน์ของพลับพลึงตีนเป็ด

  1. หัว ใบ และราก เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะทำให้อาเจียนและมีอาการท้องเดิน (หัว, ใบ, ราก)
  2. หัวใช้เป็นยาขับเสมหะ (หัว)
  3. หัวมีรสขม ในประเทศอินเดียใช้เป็นยาระบาย (หัว)
  4. ช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับน้ำดี (หัว)
  5. ใบนำมาย่างกับไฟ ใช้พันแก้อาการฟกช้ำ บวม เคล็ดขัดยอกได้ (ใบ)
  6. ใช้อยู่ไฟหลังคลอดสำหรับสตรี (ใบ)
  7. ใบมีสารในกลุ่มอัลคาลอยด์ที่มีชื่อว่า “Lycorine” ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ต้านไวรัสที่ทำให้เป็นโรคโปลิโอและโรคหัด (ใบ)
  8. มีข้อมูลเบื้องต้นรับรองว่า พลับพลึงตีนเป็ดมีฤทธิ์ในการต้านเชื้อ HIV
  9. เนื่องจากดอกพลับพลึงตีนเป็ดมีกลิ่นหอม จึงนิยมนำมาใช้ปลูกเป็นไม้ประดับตามสวน ริมน้ำตก ลำธาร ตามริมถนนหนทาง ริมทะเล สามารถทนน้ำขังแฉะได้ หรือจะปลูกไว้ในอาคารก็ได้เช่นกัน อีกทั้งยังเป็นพืชที่สามารถทนอยู่ในดินแฉะที่ไม่ค่อยมีการระบายน้ำ หรือแม้แต่ในดินที่แห้งแล้ง จึงนิยมปลูกกันทั่วไปในภาคกลางเพราะเป็นพืชที่ทนทานและไม่ต้องการบำรุงรักษามากนัก

ขอบคุณที่มา : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี , thaihealth (สสส.)
ภาพจาก : bloggang