ลดความอ้วนแบบไม่เสียเงิน

มาเอาใจสาวๆ ที่เริ่มควบคุมน้ำหนักหรือเริ่มลดความอ้วนกันค่ะ วันนี้เรามีวิธีการลดความอ้วนแบบง่ายๆ แถมยังประหยัดอีกด้วย พร้อมแล้วไปดูกันดีกว่าค่ะ

ลดความอ้วนแบบไม่เสียเงิน

มาเอาใจสาวๆ ที่เริ่มควบคุมน้ำหนักหรือเริ่มลดความอ้วนกันค่ะ วันนี้เรามีวิธีการลดความอ้วนแบบง่ายๆ แถมยังประหยัดอีกด้วย พร้อมแล้วไปดูกันดีกว่าค่ะ

1. เลี่ยงสมัครสมาชิกฟิตเนสดีกว่านะ แม้ว่าหลายคนจะใช้วิธีนี้บังคับตัวเองให้ออกกำลังกาย เพราะจ่ายค่าสมาชิกให้ฟิตเนสไปก็ไม่ใช่น้อย ครั้นจะไปบ้างไม่ไปบ้างก็คงเสียดายน่าดู แต่ลองคิดในอีกมุมดูสิคะ ว่าถ้าวันไหนเหนื่อย ๆ แล้วยังต้องบังคับร่างกายให้ไปฟิตเนสอีก เราจะมีแรงกายและพลังใจออกกำลังได้สักเท่าไรกัน หรือถ้าอยากจะให้คุ้มค่าจริง ๆ ก็คงต้องมีวินัยในการออกกำลังกายกันอย่างเคร่งครัด ซึ่งถ้าตัวเองก็ยังไม่มั่นใจว่าจะขยันออกกำลังกายได้ขนาดนั้น แนะนำให้วิ่งรอบสวนสาธารณะ หรือใช้บริการฟิตเนสตามสถานที่ของรัฐที่มีค่าใช้จ่ายต่อครั้งไม่เกิน 100 บาทน่าจะเวิร์คกว่า

2. อย่าใส่ใจแฟชั่นชุดออกกำลังกายมากนัก หากคุณเพิ่งเริ่มตั้งปณิธานว่าจะออกกำลังกายอย่างจริงจังตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ก็อย่าเพิ่งรีบร้อนช้อปปิ้งชุดกีฬาซะเต็มเหนี่ยว เพราะในระยะเริ่มแรก คุณแค่ต้องการชุดกีฬาที่ใส่แล้วรู้สึกสบาย ไม่อึดอัดจนขยับแข้งขาไม่สะดวก และถ่ายเทอากาศได้ดีเท่านั้น จนกว่าจะหากีฬาที่เหมาะกับตัวเองเจอ แล้วค่อยซื้ออุปกรณ์และชุดที่เหมาะกับกีฬาชนิดนั้น ๆ น่าจะดีกว่า แต่หากว่าคันไม้คันมือตามประสานักช้อป ก็ลงทุนซื้อแค่รองเท้ากีฬาดี ๆ สักคู่ก็พอค่ะ เพราะพอหุ่นเริ่มฟิตและเฟิร์ม เสื้อผ้าและข้าวของที่ลงทุนไปก็คงไม่ได้ใช้สักเท่าไรแล้ว

3. กินให้ถูก ห้ามใจให้ได้ ไม่ว่าจะเดินผ่านโซนขนมขบเคี้ยว หรือร้านเบเกอรี่เจ้าโปรด ก็ควรนับ 1-100 ในใจ สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วตั้งสติให้มั่น เพื่อตัดใจจากของเหล่านี้อย่างเด็ดขาด แล้วหันไปเลือกรับประทานผัก ผลไม้ เนื้อไก่ เนื้อปลา หรือขนมปังโฮลเกรน 100% ดีกว่า ประหยัดทั้งเงินในกระเป๋า แถมไม่ทำให้อ้วนด้วย

ภาพจาก sanook.com

4. อย่าหลงกลขนมที่ไม่มีประโยชน์อย่างแท้จริง เรามักจะถูกหลอกโดยฉลากบนผลิตภัณฑ์ว่าไม่มีน้ำตาล หรือมีแคลอรี่น้อย แต่หารู้ไม่ว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้ซึ่งนอกจากจะมีราคาสูง แล้วก็ยังให้คุณค่าทางสารอาหารได้น้อยกว่าที่เราคิดไว้อีก ดังนั้น แทนที่จะหยิบลูกเกดกระป๋อง หรือน้ำผลไม้สำเร็จรูป 100% ก็เปลี่ยนใจมากินอัลมอนด์อบแห้ง หรือของกินเล่นที่ให้คุณค่าทางสารอาหารแก่เราแบบจัดเต็มดีกว่า ไม่ต้องจ่ายเยอะ แถมยังได้ประโยชน์ที่มากกว่าอย่างนี้ บอกได้คำเดียวว่าฟินสุด ๆ เลยเนอะ

5. ดื่มน้ำเปล่าประหยัดสุด น้ำเปล่าเป็นมิตรแท้สำหรับคนอยากผอม ฉะนั้น แทนที่จะเสียเงินซื้อน้ำหวาน น้ำอัดลม หรือกาแฟสักแก้ว ก็เก็บเงินเข้ากระเป๋า แล้วคว้าขวดน้ำเปล่ามาดื่มแทนดีกว่า ซึ่งนอกจากจะราคาถูกกว่ามากแล้ว ยังดีต่อร่างกายทั้งเรื่องผิวพรรณและเรื่องน้ำหนักเลยด้วย

6. ใช้ของฟรีให้เป็นประโยชน์ ห้องสมุดประจำหมู่บ้าน สูตรลดน้ำหนักในอินเทอร์เน็ต หรือแม้แต่คลาสแอโรบิกตามสวนสาธารณะ ล้วนแล้วแต่เป็นแหล่งช่วยลดความอ้วนที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น อย่างนี้จะมัวลังเลอยู่ก็กระไร รีบเข้าไปยืมหนังสือคู่มือฟิตหุ่น หรือจะเป็นวิดีโอออกกำลังกายในห้องสมุดให้เร็ว หรือถ้าไม่สะดวก ก็ลองเสิร์ชหาสูตรลดน้ำหนักหรือหาวิดีโอคลิปสอนโยคะในอินเทอร์เน็ตมาลองฝึกดูก็ได้ เย็น ๆ หน่อยค่อยออกไปวิ่งที่สวนสาธารณะ เล่นเครื่องบริหารร่างกายที่เขามีไว้บริการ แล้วตบท้ายด้วยการออกสเต็ปแอโรบิกอีกสักหน่อยก็เริ่ดแล้วล่ะ

ภาพจาก elle.de

7. ปั่นจักรยานกำจัดความเครียด ลองปั่นจักรยานออกไปในทุ่งกว้าง หรือในสวนสาธารณะในวันที่คุณรู้สึกเครียดกับสถานการณ์บางอย่าง หรือคิดงานจนหัวจะแตกก็คิดไม่ออก รับรองเลยว่ามันสามารถช่วยให้ความเครียดที่คุณมีอยู่ลดลงได้ไม่ยาก เพราะในขณะที่เราปั่นจักรยานออกไปตามทาง เราจะได้พบเจอกับสิ่งต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นคน ต้นไม้ ลำธาร ทุ่งกว้าง ดอกไม้ ก้อนหิน ซึ่งสิ่งต่าง ๆ ริมทางเหล่านี้จะดึงคุณออกจากความคิดและจิตใจที่หมกมุ่นอยู่กับความเครียด ไปยังสภาพแวดล้อมรอบกาย และการออกกำลังกายก็จะทำให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน จนบางทีก็อาจจะเกิดแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ที่สามารถเปลี่ยนความเครียดให้เป็นปัญญาได้ด้วย ยิ่งถ้าได้ปั่นไปในหาทางที่ท้าทาย เช่น ปั่นขึ้นเขา คุณก็จะยิ่งมีสมาธิกับความท้าทายตรงหน้า จนเรื่องที่เครียดอยู่หลุดหายจากห้วงความคิดไปอย่างไม่รู้ตัวเลยล่ะ

8. วิ่ง วิ่ง วิ่ง ให้ไอเดียกระฉูด การที่ร่างกายได้ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งซ้ำกันไปมา โดยเฉพาะการวิ่งที่เป็นกิจกรรมที่ไม่ได้มีความซับซ้อน และไม่ได้มีขั้นตอนอะไรมากมาย จะทำให้สมองผ่อนคลาย หลุดออกจากความกดดัน และร่างกายก็จะหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินออกมา ซึ่งอาจจะเป็นการเปิดโอกาสให้มีไอเดียดี ๆ เกิดขึ้นได้ในขณะที่วิ่ง ดังนั้นจึงเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะมากกับคนที่กำลังรู้สึกมืดแปดด้าน คิดอะไรไม่ออกนั่นเองค่ะ

ขอขอบคุณ ที่มา : นิตยสาร Spicy