ภาพจาก lifestyle.kompas.com
สาเหตุของการลดน้ำหนักไม่ได้ผล
"ความอ้วน" ไม่ว่าใครก็คงไม่ต้องการ นอกจากจะอึดอัด เทอะทะ อุ้ยอ้ายแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเป็นสารพัดโรค ทั้งเบาหวาน ความดัน ไขมัน โรคอ้วน แถมต้องทนกับสายตาเหยียด ๆ จากคนรอบข้างที่อาจจะมองว่าคุณไม่เอาใจใส่ดูแลตัวเอง ปล่อยปละละเลยจนเสียทั้งสุขภาพ และบุคลิกภาพ ถ้าถามว่าอยากลดน้ำหนัก ไหม เชื่อว่าหลายคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า "อยากลด" ใจจะขาด แต่ทำไมมันทำยากเหลือเกิน...
ลองมาสำรวจตัวเองกันดีกว่าว่า เพราะอะไรจึงไม่ประสบความสำเร็จกับการลดน้ำหนัก
ภาพจาก health.kapook.com
1. เสียดาย "กินไม่หมดเหรอ ทำไมไม่กิน มาเอามา...ฉันกินเอง เสียดายของ" พฤติกรรมแบบนี้ใช่คุณรึเปล่า ถ้าใช่ ก็เลิกเสียเถอะ เพราะนี่คือหนึ่งในสาเหตุทำให้คุณกินอาหารเกินกว่าร่างกายต้องการอยากหุ่นดี กินพอดีพออิ่มดีกว่า
2. กลัวหิว เห็นอาหารละลานตา น่ากินมาก สมองสั่งการปุ๊ปเลยว่าควรซื้อกลับไปใส่ตู้เย็นไว้ดีกว่า เผื่อว่าเกิดรู้สึกหิวจะได้มีอะไรกิน ฉลาดคิดดีมาก แต่ถ้าทำแบบนี้จนติดเป็นนิสัย คุณไม่มีทางลดน้ำหนักหรือขจัดไขมันออกไปจากตัวได้ เพราะส่วนใหญ่ ถ้ารู้ว่ามีของชอบอยู่ในตู้เย็นก็อดใจไม่ไหวสุดท้าย ก็จะจัดการเสียจนเกลี้ยงตู้ก่อนจะหิวจริง ๆ ทุกที
3. กินจุบจิบทั้งวัน อย่าคิดว่าอาหารบางชนิดกินแล้วไม่ทำให้อ้วน เพราะหากกินมากเกินปริมาณ ใครจะรู้ว่าร่างกายเราจะสามารถย่อยหรือเผาผลาญได้ทันหรือไม่ พฤติกรรมตามใจปาก หยุดกินไม่ได้ มีผลโดยตรงทำให้อ้วนง่าย เห็นผลเร็วมาก ทางที่ดีควรหักห้ามใจ ฝึกตัวเองให้กินเป็นเวลา อย่าหลงระเริงเพลิดเพลินไปกับการลิ้มรสจนมากเกินไป ควรกินให้อิ่มในมื้ออาหาร หากรู้สึกหิว หรืออยากกิน ให้แก้ด้วยการดื่มน้ำแทนและอย่าลืมลดปริมาณลงให้เหมาะสม
ภาพจาพ sanook.com
4. กินไม่ขยับ หนุ่มสาวออฟฟิศดูจะน่าเป็นห่วงที่สุด เพราะเดี๋ยวนี้อากาศมันร้อนสุดทนจนไม่อยากไปไหน ข้าวเช้าข้าวเที่ยงก็ห่อมานั่งกินกันที่โต๊ะทำงานนั่นแหละ กินเสร็จก็นั่งแช่ แชทบ้าง คุยโทรศัพท์บ้าง วันทั้งวันร่างกายแทบไม่ได้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวอะไรเท่าไหร่ เมื่อร่างกายไม่เกิดการเผาผลาญแล้วจะไม่ให้ไขมันสะสมได้อย่างไร
5. อดอาหาร การอดจะยิ่งทำให้ลดความอ้วนได้ยากเพราะระบบภายในร่างกายจะรวน โดยเฉพาะจะเกิดผลกระทบร้ายแรงต่อระบบเผาผลาญ ระดับฮอร์โมนทั้งหลายเกิดการเปลี่ยนแปลง เรียกว่าเป็นส่วนเสริมกำลังให้การลดน้ำหนักของคุณเป็นไปได้ยากมาก ๆ เช่น อดใจไม่กินมื้อเย็น แต่สุดท้ายก็ไปตบะแตกตอนกลางคืนจนได้ แถมยังกินหนักกว่าเดิม หรือหากงดมื้อเช้าก็จะทำให้ร่างกายไม่มีพลังงานเพียงพอ จะรู้สึกเพลียตลอดทั้งวัน เลิกเถอะ เพราะวิธีนี้คุณจึงอ้วนอยู่นั่นเอง
6. ติดเครื่องดื่มแคลอรี่สูง อยากกินอะไรหวาน ๆ เย็น ๆ ประเภทน้ำอัดลม น้ำหวาน ชาไข่มุก น้ำผลไม้ ฯลฯ ยิ่งอากาศร้อน ๆ ต้องเบิ้ลกันหลายแก้วถึงจะชื่นใจ ดับกระหายจินตนาการว่ากินแล้วกระปรี้กระเปร่า แต่รู้หรือเปล่าว่าน้ำตาล + แคลอรี่สูงปรี๊ด กินแล้วอ้วนไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ควบคุมน้ำหนักทั้งปวง
7. โปรดปรานอาหาร Junk Food หมายถึงอาหารที่ไม่ค่อยมีคุณค่าทางโภชนาการและให้พลังงานสูง เช่น เบอร์เกอร์ ไก่ทอด มันฝรั่งทอด ฮอทด็อก พิซซ่า โดนัท ฯลฯ หากติดใจในความอร่อยลิ้นก็ควรกินในปริมาณน้อย แต่หากต้องการมีสุขภาพที่ดี รวมถึงมีรูปร่างที่สมส่วน ก็ควรเลิกกินไปเลยดีที่สุด
8. เครียด มีผลทำให้อ้วนขึ้นได้โดยเฉพาะหน้าท้อง เพราะภาวะเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งก็คือความเครียด ยิ่งร่างกายกระตุ้นให้เกิดความเครียดมากขึ้นเท่าไร ต่อมหมวกไตจะยิ่งเพิ่มการผลิตของคอร์ติซอล เพราะอย่างนี้ไงไขมันหน้าท้องจึงพอกพูนเป็นห่วงยาง รู้อย่างงี้ก็รีบหาวิธีคลายเครียดด่วน
9. มองข้ามการเผาผลาญแคลอรี่ ทำมาแทบจะทุกวิธี ยกเว้นการเผาผลาญแคลอรี่ คุณไม่มีทางลดน้ำหนัก ได้สำเร็จ เพราะการเผาผลาญคือการกำจัดส่วนเกินออกไป แค่ขยับก็เท่ากับเผาผลาญ การออกกำลังที่ถูกต้อง จะช่วยเพิ่มอัตราเผาผลาญได้ราว 10 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงการยกน้ำหนักก็เป็นการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ยิ่งคุณมีกล้ามเนื้อมากเท่าไรก็จะยิ่งเผาผลาญแคลอรี่ได้มากเท่านั้น
วิธีลดน้ำหนัก รูปร่างเปลี่ยนได้ด้วยการปรับพฤติกรรมประจำวัน โดยเริ่มที่ตัวเอง ต้องตั้งใจจริงซึ่งทำได้ไม่ยาก
การกินอาหารเพื่อให้รูปร่างสมส่วนนั้นมีกันอยู่หลายวิธี แต่ที่สำคัญจริง ๆ ก็คือกินอาหารให้ครบหลักโภชนาการทั้ง 5 หมู่ และควรทานในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ควรอดอาหารเด็ดขาด
พักผ่อนให้เพียงพอ ถ้านอนไม่พอแม้จะรู้สึกบันเทิงเริงใจแค่ไหน แต่ร่างกายจะคิดว่ากำลังเครียดและหลั่งคอร์ติซอล (ฮอร์โมนความเครียด) ออกมาในปริมาณสูง ซึ่งส่งเสริมการสะสมไขมันที่หน้าท้อง และนั่นอาจทำให้เสี่ยงต่อสุขภาพ
สรุปสั้น ๆ ว่ากินให้ดี นอนให้พอ แล้วระบบเผาผลาญก็จะทำหน้าที่อย่างดีเอง
ขอขอบคุณ ที่มา : Slimup